เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวจากสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Nattapong Ho ได้เผยเรื่องราวสุดกระทบจิต ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ได้ส่งจดหมายให้ผู้เสียชีวิตไปฉีดวัคซีนเป็นฉบับที่สอง โดยระบุว่า

“ถ้าคุณเป็นหนึ่งในครอบครัวของคนที่สูญเสียชีวิตจากโควิด-19 มาเป็นเวลาเดือนกว่า ๆ จะรู้สึกอย่างไร เมื่อเดินทางกลับจากที่ทำงาน จนมาถึงบ้านแล้วเจอจดหมายจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ให้ผู้เสียชีวิตไปฉีดวัคซีนเป็นฉบับที่สอง ย้ำนะครับ…นี่คือฉบับที่สองแล้ว!

หลายคนอาจจะบอกว่าจริง ๆ เรื่องนี้มันเล็กนิดเดียวนะแค่เราไปแจ้งทางสำนักงานก็น่าจะจบแล้ว แต่คุณรู้ไหมว่าสภาวะหลังจากครอบครัวเราเจอโรคบ้าบอนี้ มันทำให้บ้านเราเปลี่ยนเป็นอย่างไร คนในบ้านเรารู้สึกเจ็บปวดไปจนถึงตรอมใจกันมาตลอดเป็นเวลานับเดือนจนถึงปัจจุบัน

ขอนุญาตลงรายละเอียดสภาวะครอบครัวคือ อาอีกคนของเราที่เป็นผู้สูงอายุที่เป็นพี่น้องกับผู้เสียชีวิตนอนไม่หลับ บางวันก็ซึมเศร้าไปจนถึงร้องไห้พูดถึงอาที่เสียไปแบบวันเว้นวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราต้องพยายามปรับสภาพความสมดุลทางอารมณ์และจิตใจทุกคนในบ้าน

ช่วงเวลานี้เราพยายามฟื้นฟูและปรับตัว เพื่อมองไปข้างหน้าและพยายามหาหนทางดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอดในยุคสภาวะ ‘ประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง’ แต่แล้วเราก็มาเจอการบริหารจัดการที่ฉุดรั้งความรู้สึกทางจิตใจของเรา และรวมไปถึงคนในครอบครัว จากภาครัฐ เราขอย้ำนะครับ นี่ไม่ใช่เรื่องสะเพร่าหรือเรื่องล้อเล่น กับการที่คุณประกาศว่าจะทำการบูรณาการในระบบราชการ 4.0 ให้มีคุณภาพตามหลักธรรมมาภิบาลเพื่อประโยชน์สุขประชาชน

ซึ่งก่อนที่คุณจะทำการส่งจดหมายฉบับนี้ และถ้าทางกระทรวงสาธารณสุข ทำงานแบบนี้ เราในฐานะประชาชนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ก็ได้แต่วิงวอนโปรดช่วยใส่ใจในระบบบัญชีจากระบบ ‘ทะเบียนราษฎร์’ จากกรมการปกครอง ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีการอัพเดทสัดส่วนไปจนถึงบัญชีรายชื่อของผู้เสียชีวิตตลอดทุกวัน เราเชื่อว่าการที่สำนักงานสาธาณสุขจังหวัดนนทบุรี ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถลงรายละเอียดกับงานด้วยการตรวจสอบข้อมูลทาง ‘ทะเบียนราษฎร์’ ได้อย่างไม่ยาก เพียงแค่คุณรักและใส่ใจประชาชน และได้โปรดช่วยทำงานด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์

ขอเรียนไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบงานนี้ได้ตรวจสอบบัญชีรายชื่อให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำงานในรูปแบบนี้อีก ท้ายที่สุดนี้ ได้แต่ว่าหวังว่าจดหมายนี้จะเป็นฉบับสุดท้ายที่เราจะได้เจอ ขอบคุณครับ”..

ขอบคุณภาพประกอบ : Nattapong Ho