จากกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหายซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ถูกอาจารย์ผู้ฝึกสอนกีฬา มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิตลวนลามในห้องน้ำโรงยิม เข้าร้องทุกข์ต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยมีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) เป็นตัวแทนรับเรื่อง เพื่อประสานส่งเรื่องมายังกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เป็นตัวแทนรับหนังสือ อีกทั้งล่าสุดสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย ได้มีการออกหนังสือสั่งลงโทษโค้ชยูยิตสูของสโมสรดังกล่าว หลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยจะระงับกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผู้ฝึกสอนกีฬา จนกว่าคดีความจะได้รับการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่ กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  พร้อมทีมงาน ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ถูกอาจารย์ผู้ฝึกสอนดีกรีระดับประเทศ กีฬายูยิตสู มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต ซึ่งเปิดโรงยิมรับฝึกซ้อมนักกีฬาเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย โควต้านักกีฬาได้มีพฤติการณ์ขอมีเพศสัมพันธ์ในห้องน้ำของโรงยิม แลกกับการได้สิทธิโควต้านักกีฬาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม จึงถูกสบโอกาสลวนลามล้วงจับหน้าอก เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอรับการคุ้มครองพยานและขอรับเงินเยียวยา

นายเอกภพ กล่าวว่า น.ส.เอ เป็นนักกีฬาเทควันโดและอยากเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ จึงได้ไปค้นหาเจอในเพจเฟสบุ๊คว่าแถวมหาวิทยาลัยดังกล่าวมีสถานฝึกซ้อมยิมแห่งนี้ น้องจึงได้รู้จักกับอาจารย์ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าของยิมและเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย แต่ระหว่างการฝึกซ้อมก็เกิดเหตุการณ์คุกคามทางเพศขึ้น และเนื่องด้วยน้องได้รับความเสียหายจากกระทำของอาจารย์ จึงพาน้องมาขอรับการคุ้มครองพยาน และขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาฯ จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยติดตามเร่งรัดคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.คลองหลวง ให้เอาผิดกับอาจารย์รายนี้ให้ได้ นอกจากนี้ น้องผู้เสียหายยังคงมีอาการวิตกกังวลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเอกภพ กล่าวอีกว่า อาจารย์ผู้ก่อเหตุมีการเลือกเหยื่อจากหน้าตา และยังใช้ลักษณะของกีฬาในการก่อเหตุอนาจารนักเรียน เด็กๆหลายคนรู้สึกอึดอัดกับเหล่าพฤติกรรมนี้มานาน ตนจึงขอฝากเตือนว่าการกระทำดังกล่าว คือ การล่วงละเมิดทางเพศ คนเป็นครูอาจารย์จะต้องมีสำนึกของความเป็นครู และอยากฝากให้ทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัดของผู้ก่อเหตุ (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) ขอให้มีกระบวนการคัดเลือกบุคคลที่มีคุณภาพมากกว่านี้ อีกทั้งตนทราบว่าปัจจุบันนี้อาจารย์คนก่อเหตุก็ยังไม่ได้ถูกสั่งพักงาน และมหาวิทยาลัยก็ยังไม่ได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบใดๆ ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดี ยืนยันว่าทางน้องผู้เสียหายและครอบครัวจะเอาผิดจนถึงที่สุด และในเร็วๆนี้จะมีผู้เสียหายซึ่งเป็นรุ่นพี่อีกจำนวนมากที่จะทยอยติดต่อเข้ามาเป็นพยานให้กับน้อง เพราะเคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ทั้งนี้ กรณีที่มีการนำเอาเสื้อที่น้องใช้สวมใส่ในวันเกิดเหตุส่งให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอผู้ก่อเหตุนั้น ทาง สภ.คลองหลวง ได้แจ้งว่าได้ทำเรื่องนำส่งเสื้อของน้องไปตรวจที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หากเจอรอยนิ้วมือก็จะเป็นหลักฐานประจักษ์เชิงวิทยาศาสตร์ได้

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า สมัยเป็นนักเรียนชั้น ม.1 ตนเคยเรียนเทควันโดมาก่อน พอเกิดเหตุการณ์โควิด-19 จึงหยุดไป จากนั้นได้ค้นหาในเฟซบุ๊ก เพราะอยากเรียนเทควันโดใกล้ๆ บ้าน จึงเจอยิมดังกล่าว และได้ติดต่อไปทางเฟซบุ๊ก จึงทำให้ได้รู้จักครูผู้ก่อเหตุ ส่วนในวันเกิดเหตุนั้น เป็นเวลา 08.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ย. ตนได้ไปวิ่งออกกำลังกายที่ยิมเพื่อวอร์มซักซ้อมร่างกาย จากนั้นครูได้เรียกให้ตนเข้าไปในห้อง เพื่อจะพูดคุยเรื่องการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย โดยใช้โควต้านักกีฬา โดยจะมีเรื่องการเตรียมเอกสารต่างๆ และครูก็ได้ขอให้ตนนำเอาโทรศัพท์ไปเก็บไว้ด้านนอกก่อน ตนจึงนำไปฝากไว้กับพ่อที่รออยู่ข้างนอกห้อง ต่อมาเมื่อกลับเข้าไปในห้อง ครูก็ชวนตนคุยในลักษณะของการคุกคามทางเพศ โดยพูดวนซ้ำๆ แม้ตนพยายามหลีกเลี่ยง และยังเดินมาอยู่ข้างหลังตน ใช้มือสัมผัสลูบแผ่นหลัง ตนก็พยายามควบคุมสติให้มากที่สุด แม้หวาดกลัวมากๆ สุดท้ายครูคนดังกล่าวได้ใช้มือมาล้วงจับที่หน้าอกตน ทำให้ยิ่งหวาดกลัวและตกใจจึงปัดป้องมือออกก่อนรีบลุกขึ้นยืนและขอตัวกลับก่อน แต่ครูคนนี้ก็ได้พูดไล่หลังมาว่า หากตัดสินใจอย่างไรก็บอก เพราะจะต้องรีบจัดการเอกสาร จากนั้นตนจึงรีบออกจากห้องนั้น และขึ้นรถของพ่อ พร้อมร่ำไห้เล่าเรื่องราวนี้กับครอบครัวทันที

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ตนได้เข้ามาเรียนที่ยิมนี้ตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ไม่เคยมีพฤติการณ์คุกคามหรือลวนลามเนื้อตัว มีเพียงการพูดส่อเสียด ไม่เชิงสองแง่สองง่าม แต่ตนก็พอได้ยินมาจากคนอื่นๆ ในยิมบ้างว่า ครูรายนี้มีพฤติกรรมแตะเนื้อต้องตัวเด็กผู้หญิง แต่เนื่องจากลักษณะของกีฬา จึงทำให้หลายๆ คนไม่สามารถบ่งบอกได้ชัดว่าเป็นการแตะเนื้อต้องตัวที่ส่อเจตนาทางเพศหรือไม่ ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเรื่องราวขึ้น ตนไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับครูรายนี้อีก และได้บล็อกช่องทางติดต่อทั้งหมด เพราะยังคงหวาดกลัวจากการกระทำของเขา วันนี้จึงต้องการขอรับการคุ้มครองพยาน เพราะเกรงว่าจะถูกคุกคามในชีวิตประจำวันหลังจากนี้ 

ขณะที่ นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กล่าวว่า เมื่อได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศแล้ว เราก็จะเร่งรัดติดตามในส่วนของคดีให้ด้วย ส่วนข้อกังวลเรื่องการถูกข่มขู่คุกคาม กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะจัดเจ้าหน้าที่คุ้มครองพยานให้ ทั้งนี้ ในเรื่องของเงินชดเชยเยียวยา จะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา (สชง.) เพื่อพิจารณาเรื่อง และให้คำยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมพร้อมดูแลผู้เสียหายอย่างเต็มที่.