เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงเรียนบ้านฝายหิน ต.โนนสัง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วยนายอำไพ ศรีกัณหา ข้าราชการบำนาญ อดีตครูโรงเรียนบ้านฝายหิน เกือบ 25 ปี พร้อมนายทองขาว ไชยยนต์ ผญบ.บ้านฝายหิน หมู่ที่ 9 ต.โนนสัง พร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนบ้านฝายหิน หลังโรงเรียนมีนักเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)กำหนด ต้องนำบุคลากร และนักเรียนไปเรียนร่วมกับโรงเรียนบ้านหนองแวงงิ้วตาก ภายในเขตเทศบาลตำบลโนนสัง ร่วม 3 กม.เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา

โดยนายอำไพฯอดีตครูโรงเรียนบ้านฝายหิน นำผู้สื่อข่าวเดินดูสภาพภายในโรงเรียนในพื้นที่ประมาณ 8 ไร่ และที่น่าสลดใจ เมื่อเห็นอาคารเรียนที่ตนเคยสอนอยู่ที่นี่ถูกไฟไหม้ เมื่อปลายปี 2564 หลังเปิดเป็นศูนย์พักชั่วคราวโควิด-19 หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารเรียนก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลและบริหารจัดการ ปล่อยให้สภาพภายในอาคารอุปกรณ์ไฟฟ้าบางส่วนถูกตัด สภาพภายนอกรกร้างป่าหนาทึบ เกือบไม่เห็นสภาพเป็นอาคารเรียนและอาคารประกอบ ขณะที่สนามฟุตบอลปล่อยให้เป็นสนามเลี้ยงวัวของชาวบ้าน

ในขณะที่ นายทองขาวฯผญบ.บ้านฝายหิน กล่าวว่าหลังจากไม่มีครูนักเรียนมาร่วม 6 ปี จะเห็นสภาพทุกอย่างชำรุดทรุดโทรมไปตามกาล ยิ่งเมื่อตอนไฟไหม้อาคารเรียน หน่วยงานในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน( สพฐ.)ไม่เคยเข้ามาดูแลและประชุมปรึกษาหารือกับชาวบ้านว่าอนาคตของโรงเรียนจะไปในทิศทางใด ใจลึกๆแล้วอยากให้คงสภาพความเป็นโรงเรียนเหมือนเดิม(บ้าน วัด โรงเรียน) หรือ บวร.ในชุมชน และ หากจะหน่วยงานต้นสังกัด คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 เข้ามาดูแลพัฒนาปรับปรุงให้คงสภาพความเป็นสถานศึกษาเหมือนเดิมชุมชนคงพอใจ หรือไม่ก็อยากจะให้ผู้บริหารโรงเรียนหนองแวงงิ้วตาก ที่เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบ ส่งคืนธนารักษ์พื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อให้หน่วยงานที่มีความประสงค์จะเข้ามาดูแลและพัฒนาให้เกิดความเจริญในพื้นที่ต่อไป

และเช่นเดียวกันที่โรงเรียนหินตลาดศรีสง่าวิทยา สาขาศรีภูทอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 อยู่ในพื้นที่ ต.โนนสะอาด อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เป็นอีก 1 โรงเรียนที่มีสภาพคล้ายคลึงกัน และเป็นสถานไกลปืนเที่ยง ติดชายแดนอำเภอผาขาวจังหวัดเลย ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 80 กม.

โดยเมื่อวานนี้(11 พ.ย.66)ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน ส.อบจ.หนองบัวลำภู อดีตครูที่เคยสอนที่นี่มาร่วม 20 ปี พร้อมกับกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน หลังมีผู้นำหมู่บ้าน ผู้ปกครองอยากเห็นสภาพความเป็นชุมชนของหมู่บ้านที่ต้องมีบ้าน วัด และ โรงเรียน (บวร)หลังจากตั้งเป็นโรงเรียนสาขาหินตลาดศรีสง่าวิทยา มาร่วม 30 กว่าปี ปล่อยให้สภาพบริเวณของโรงเรียนรกร้างว่างเปล่า ทรัพย์สินของทางราชการและที่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคและมอบให้ปล่อยทิ้งไว้ในที่ไม่เหมาะสม แม้พระพุทธรูปต้องมาตั้งวางไว้เฝ้าห้องเรียนบนอาคารเรียน

นายฤชุพันธ์ ศรีภูวงศ์ ผญบ.บ้านศรีภูทอง ต.โนนสะอาด กล่าวว่า ในอดีตตนจบการศึกษาจากสถานศึกษาแห่งนี้ ถึงแม้นว่ากระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จะมีนโยบายในการเรียนร่วม ในเมื่อนักเรียนมีจำนวนลดน้อยลงและไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดก็ตาม แต่ความเสียดายและเสียความรู้สึกในจิตใจของชุมชนยังรักและห่วงใยในสถานศึกษาที่เคยอบรมบ่มเพาะให้เป็นคนมีความรู้ มีคุณธรรมและมีความสามารถ จนมีลูกศิษย์ที่จะจบจากที่นี่เจริญเติบโตในหลากหลายอาชีพ

ปัจจุบันมีลูกหลานของชาวบ้านที่อยู่ในช่วงวัยเข้ารับการศึกษา ร่วม 30 คน แยกไปเรียนที่โรงเรียนหินตลาดศรีสง่าวิทยา 17 คนที่ต้องขึ้นรถไปเรียนที่โรงเรียนมารับและส่ง ร่วม 7 กม. และอีกส่วนหนึ่งไปเรียนในโรงเรียนในเขตอำเภอผาขาว จังหวัดเลย อีก ร่วม10 คน เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา ขณะนี้ไม่มีแม้ครูและนักเรียนคนเดียวที่นี่ เพราะเป็นโรงเรียนสาขาของโรงเรียนแม่ ผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนแม่ดูแลทั้ง 2 โรงเรียน แต่ 1 ปีผ่านมาทำให้สภาพของโรงเรียนขาดการดูแลรักษา ปล่อยให้ทรัพย์สินของทางราชการและที่ชาวบ้านร่วมกันบริจาค ปล่อยทิ้งในที่ไม่เหมาะสม รวมถึงบ้านพักครูไร้คนพักอาศัย

นายฤชุพันธ์ฯ ผญบ.บ้านศรีภูทอง กล่าวเพิ่มเติมทราบว่าในวันที่ 3-4 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะนำ ครม.มาประชุมสัญจรนอกพื้นที่เป็นครั้งแรกที่จังหวัดหนองบัวลำภู จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ได้พิจารณาทบทวนในเรื่องของการเรียนร่วม เพราะทราบว่าทั่วประเทศมีหลายพันแห่ง เฉพาะจังหวัดหนองบัวลำภู ทั้ง 2 เขต มีถึง 27 แห่งที่มีสภาพอย่างนี้ที่ปล่อยให้สถานศึกษาเป็นแหล่งมั่วสุม ทรัพย์สินถูกทำลาย ไร้ครู ไร้นักเรียน และความรู้สึกของผู้ปกครองยังรักและห่วงแหน ในขณะที่สถานศึกษาแห่งใดพร้อมยุบเลิกก็ขอให้เร่งดำเนินการเพื่อให้หน่วยงานเข้ามาพัฒนาดูแลรักษาต่อไป