เมื่อวันที่ 15 พ.ย. น.ส.พิกุล สีดำ อายุ 30 ปี ชาวบ้านใหม่ศรีสุข ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น นำภาพที่ได้รับเหรียญทองตะกร้อทีมเดี่ยวหญิง ทีมชาติไทย จากการแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 กว่างโจวเกมส์ 2010 ออกมาดูเพื่อรำลึกถึงการที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ทีมชาติไทย และชาวจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ยังไม่ได้เงินรางวัลอัดฉีด หลังจากที่ โจ้-สืบศักดิ์ ผันสืบ หนึ่งในกรรมการบริหารสมาคมกีฬาเซปักตะกร้อแห่งประเทศไทยชุดใหม่ ได้ออกมาเผยถึงเงินอัดฉีดของนักกีฬาที่ได้หายไปกว่าครึ่ง และยังได้โพสต์ข้อความที่ตนเองได้โพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเอง ที่มีข้อความระบุเกี่ยวการใช้ชีวิตที่ลำบาก

น.ส.พิกุล เล่าว่า ตนเองชื่นชอบการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อตั้งแต่เด็ก และตอนที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ติดทีมชาติไทย และเลิกเล่นตะกร้อ ตอนเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพราะจะต้องเรียน เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งในช่วงติดทีมชาตินั้น สามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขัน กว่างโจวเกมส์ 2010 ในประเภททีมเดี่ยวหญิง และทีมชุด โดยขณะนั้น มีการอัดฉีดเงินรางวัลเหรียญทองคนละ 1 ล้านบาท ในแต่ละประเภท ขอขอบคุณพี่โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ ที่ได้มีการหาวิธีในการช่วยติดตามเงินอัดฉีด เพราะยังไม่ได้รับเงินเป็น 1 ล้านบาท เพราะช่วงนั้นได้มา 1 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1 ล้านบาท โค้ชกับผู้จัดการทีมไม่รู้นำเงินไปไว้ไหน แม้ว่าในช่วงจะเลิกเล่นให้ทีมชาติ ได้มีการติดต่อไปทางโค้ชและผู้จัดการทีม แต่เรื่องก็เงียบหายไป โดยทุกวันตนเองได้มีครอบครัว โดยทางสามีได้ไปทำงานต่างประเทศ และมีลูกสาววัย 3 ขวบเศษ และปลูกผักขาย แม้ชีวิตจะไม่ลำบากมาก ก็อยากจะได้เงินอัดฉีดที่เหลือเพื่อเป็นทุน เผื่อได้มาทำธุรกิจดูแลครอบครัว ซึ่งขณะนี้เรื่องนี้ได้ผ่านไปถึง 13 ปีแล้ว อยากให้อดีตโค้ชและผู้จัดการ ได้สงสารอดีตนักกีฬาด้วย เพราะตอนนี้เงินก็เริ่มไม่พอใช้จ่าย แต่ละเดือนทางสามีจะโอนมาให้เดือนละ 5,000 บาท.