จัดเป็นขวัญใจของแฟนๆ ทุกเพศทุกวัยของจริงสำหรับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ต่าย อรทัย ที่วันนี้จะมาเปิดใจดังไกลถึงเกาหลี จนแฟนคลับตั้งชื่อให้ อรทัย ออนนี่ พร้อมประเด็นเดินหน้าขอพรพระแม่ลักษมีแต่ไม่รู้ว่าจะไปขอความรักครั้งใหม่หรือเปล่า แถมยังเปิดตัวคู่จิ้นที่ทำเอาสะเทือนทั้งวงการ ผ่านรายการคุยแซ่บshow แบบจัดเต็ม

ต่าย เผยว่า “เรื่องดังถึงเกาหลี จริงๆ เป็นวันที่จะเดินทางไปอเมริกาในรอบ 13 ปี ก็ส่งข่าวแฟนคลับว่าใครอยากไปส่งหรือไปให้กำลังใจก็ได้นะคะ เราไปถึงสนามบินก็มีพื้นที่ให้แฟนคลับถ่ายรูป คิดว่าคนเกาหลีน่าจะเดินทางมาที่ไทย แล้วเห็นเรากำลังโดนรุมอยู่ แคปชั่นก็ประมาณว่า น่าจะเป็นดารา นักร้อง นักแสดงของไทยแน่ๆ เลย ยังเข้าไปไม่ได้ เพราะต้องเทคแคร์แฟนคลับ เขาโพสต์ลงในทวิตเตอร์เขา ก็ต้องขอบคุณแฟนคลับเราด้วยที่ไปเห็นโพสต์นั้น แล้วก็แชร์ๆ กันมา เราไปถึงอเมริกาหลายวันแล้วถึงได้ยินข่าว มันมีอะไรในทวิตเตอร์เขาบอกว่าขึ้นเทรนด์แล้วนะพี่ต่าย เราก็ถามว่าขึ้นเทรนด์กับเรื่องอะไร เราไปเสิร์ชเลยเจอ แล้วไม่รู้จะพูดคำไหน ซารางเฮโยส่วนคำว่า อรทัย ออนนี่แฟนๆ นี่แหละค่ะตั้งให้ ส่วนการไปอเมริกา ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องคนไทยบ้านเรา ที่ตั้งใจไปให้กำลังใจ ดีใจที่เห็นคนบ้านเราไป คือคนที่นู่นไม่ค่อยได้เจอศิลปินด้วย เขาไม่สามารถจัดงานได้บ่อย เพราะผู้จัดเขาจะต้องให้เวลาพ่อ แม่ พี่น้องที่อยู่ที่นั่นได้ทำงาน เก็บเงินมาซื้อตั๋วมาชม ก็อาจจะ 2-3 เดือนจัดครั้งนึง เรื่องดราม่าตั๊กแตน ชลดามาบูลลี่พี่ ไม่ได้บูลลี่เลย คือพอแตนแซวแล้วเป็นกระแสขึ้นมาก็ทำให้ต่ายไปย้อนฟังเพลงหลายๆ เพลงของต่าย จริงๆ ไม่เคยสังเกตเลย เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นทำนองที่ถูกสร้างมาแล้ว แล้วร้องไปตามทำนองนั้น พอแตนพูดก็ไปฟังทุกเพลงเลยเหมือนกัน”

“เรื่องที่คนเข้าใจผิดคือมันไม่ใช่บูลลี่ ต่ายกับแตนเจอกัน น้องก็ยังเป็นน้องที่น่ารักเหมือนเดิม เขาก็เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เข้าวงการ เห็นพี่เขาก็พี่ต่ายตลอด นอบน้อมเสมอ เขาแซวเฉยๆ ไม่ได้บูลลี่ เรียกว่าลายเซ็นค่ะ อย่างแตนเขาก็มีลายเซ็นของเขา ทุกคนก็มีลายเซ็นของตัวเอง เรื่องไหว้พระหรือมู คือเราไม่ได้มู แต่ว่าตั้งใจไปขอพร เราไปขออย่างอื่นก็ได้ ตรงนั้นหลายคนอาจจะไปขอเรื่องความรัก คือวันนี้เราไม่มีงาน เราตั้งใจทำทุกเรื่องก็จริง แต่บางโอกาสเรารู้สึกไม่มั่นใจ แล้วอยากมีที่พึ่งทางใจ ชวนกันกับทีมงาน ต่ายไปขอเรื่องงาน ตอนนี้หัวใจโสด ไม่ใช่ไม่เปิดใจ แต่ก็มีความสุขดีที่อยู่อย่างนี้ มันไม่ได้เหงา ด้วยความที่เราอยู่กับทีมงาม อยู่กับครอบครัว แล้วเราก็มุ่งหน้าทำงานอย่างเดียว ยิ่งช่วงนี้งานคอนเสิร์ตก็เริ่มเข้ามา แล้วพี่ทำธุรกิจรีสอร์ทด้วยมันมีหลายอย่างที่ไม่ลงตัว เราสนุกแล้วมีจุดโฟกัสเรื่องอื่นๆ ไม่ใช่ว่าเราปิด เพียงแค่ว่าเราไม่ได้ไปโฟกัสตรงจุดนั้น เรื่องหนุ่มๆขายขนมจีบ ไม่ได้รู้สึกว่ามาจีบจริงจัง อาจจะเข้ามาผ่านเรื่องงาน ในมุมของต่ายเป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือ แต่เราก็รู้สึกได้ว่าเขาให้ความสนใจ และอยากจะเข้ามาทำความรู้จัก เราจะพูดไปตรงๆ ว่าเรานับถือก็ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือ ยิ่งถ้ามีครอบครัวอยู่แล้วเราจะปฏิเสธอยู่แล้ว เลยขอว่าเป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือดีกว่า”

ต่าย เล่าต่อว่า “เรื่องประสบการณ์ผู้ชายมีครอบครัวแล้วมาจีบ ก็เลยมีความรู้สึกว่าในอนาคตถ้าทำความรู้จักกันขึ้นมาจริงๆ มันไม่เป็นผลดีแน่นอน ก็พูดกันตรงๆ เลยว่าหนูนับถือ ขอเป็นบุคคลที่นับถือดีกว่า จะได้รู้จักกันไปยาวๆ นานๆ ขอแก้ข่าวก่อน กับครูเต้ย อภิวัฒน์เป็นการร่วมงานกันครั้งแรก ได้ร้องเพลงคู่กัน”