นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส เปิดเผยว่า หลังจาก กรรมการ กสทช. อนุญาตให้เอไอเอสรวมธุรกิจกับ 3บีบี แล้วส่งผลให้ธุรกิจ ฟิกซื บรอดแบนด์ หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ของ เอไอเอส มีความแข็งแกร่ง โครงข่ายครอบคลุมการให้บริการในทั่วประเทศ และขึ้นเบอร์หนึ่งในตลาดบรอดแบนด์ของไทย ด้วยฐานลูกค้าร่วม 4.69 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ 2.38 ล้านครัวเรือน และ 3BB จำนวน 2.31 ล้านครัวเรือน

“เอไอเอส เข้าสู่ธุรกิจบรอดแบนด์เมื่อ 9 ปีที่แล้ว มีฐานลูกค้าถึง 2.38 ล้านครัวเรือน การเข้าซื้อหุ้น 3บีบี ถือว่าถูกที่ถูกเวลา โดยตลาดบรอดแบนด์มีผู้ใช้งานในปัจจุบัน 10.37 ล้านครัวเรือน จากที่ประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 20 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 50% เท่านั้น จึงมีโอกาสที่ตลาดจะเติบโตได้อีกมาก ซึ่ง 3บีบี มีความแข็งแกร่งในตลาดต่างจังหวัด และเอไอเอสไฟเบอร์ มีความแข็งแกร่งใน กทม. จึงถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นายสมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเงื่อนไขมาตรการของ กสทช. ที่กำหนดให้ต้องนำงบลงทุน 5 ปี ไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาทนั้น ทางเอไอเอสมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ต่อปีอยู่แล้ว ขณะที่ การคงแพ็กเกจราคาต่ำสุดที่ 399 บาทต่อเดือน ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีแพ็กเกจที่หลากหลายให้เลือก หากต้องการบริการอื่นๆ ก็หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้จะมีแพ็กเกจที่สนับสนุนเอสเอ็มอี โดยตั้งเป้าหมายว่าจะขยายโครงข่ายครอบคลุม 14 ล้านครัวเรือนในปี 67 และเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นที่ให้กับประชาชนและประเทศชาติ พร้อมสนับสนุนการทำสมาร์ทชิตี้ของรัฐบาลด้วย

ด้าน นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจบรอดแบนด์ เอไอเอส กล่าวต่อว่า หลังการรวมธุรกิจ ได้ใช้ชื่อว่า “เอไอเอส-3BB ไฟเบอร์ 3” ซึ่งทำให้โครงข่ายครอบคลุม 923 อำเภอ ขาดเพียง 3 อำเภอ ของประเทศไทย ที่เป็นเกาะ และสามารถให้บริการลูกค้าได้ 9.5 ล้านพอร์ต โดยเตรียมนำเสนอแพ็กเกจ พร้อมหลอมรวมบริการใหม่ๆ เพิ่มเข้าไป โดยตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้าให้โต 5-10% ในปีหน้า ซึ่งเท่ากับอัตราการเติบโตของตลาดรวมซึ่งอยู่ที่ 5-10% ต่อปี