นายก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด เจดีเซ็นทรัล ผู้นำด้านเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซและธุรกิจค้าปลีกในไทย เปิดเผยว่า เจดีเซ็นทรัลเริ่มดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 61 เป็นเวลา 3 ปี ปัจุบันมีการเติบโตที่สูงกว่า 955% ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น เน้นเรื่องสินค้าที่เป็นของแท้และความน่าเชื่อถือ ด้วยจุดยืน “ช้อปของดีการันตีของแท้” และเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ทำให้สามารถเข้าถึง กลุ่มนักช้อปออนไลน์ที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะนักช้อปผู้ชายหน้าใหม่เข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้นถึง 130% รวมไปถึงกลุ่มสินค้าแฟชั่น และสุขภาพและความงามก็มีนักช้อปเพิ่มขึ้นกว่า 300%

“ในปี 64 นี้ เจดีเซ็นทรัลสร้างสรรค์แคมเปญใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง โดยตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา มีมากกว่า 1,000 แคมเปญ ทั้งที่เป็นแคมเปญจากเจดีเซ็นทรัลเอง และที่ทำร่วมกับแบรนด์และร้านค้าต่างๆ พร้อมทุ่มงบการตลาดเพิ่มขึ้น 2 เท่า และทำการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคซึ่งพบว่า สินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุดในการช็อปออนไลน์ คือ สินค้าในครัวเรือน สินค้าไลฟสไตล์และตกแต่งบ้าน ซึ่งแคมเปญที่จัดขึ้นช่วย ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายไปกว่า 65 ล้านบาท ในระยะ 3 เดือน ตั้งแต่ มิ.ย.–ก.ย. 64 และมีผู้ซื้อหน้าใหม่เพิ่มสูงถึง 450%”

นอกจากนี้ในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ได้จัดแคมเปญ ‘Save & Safe’ ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท สนับสนุนส่วนลด และค่าขนส่งเพื่อให้คนไทยลดค่าใช้จ่าย และช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้าได้อีกทาง พร้อมมอบคูปองส่วนลดให้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าอีกทาง โดยมียอดการใช้คูปองดังกล่าวไปแล้วกว่า 50% โดยส่วนใหญ่เป็นการนำ ไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน

นายก่อลาภ กล่าวต่อว่า ตลาดคอมเมิร์ซ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่าจะยังคงเติบโตอยู่ จากที่ผู้ให้บริการรายอื่นๆ แข่งขันกันออกแคมเปญกระตุ้นตลาด และกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมาดีขึ้น โดยแผนงานในช่วงไตรมาสสุดท้าย เน้นที่การเพิ่มบริการ ร้านค้า และฟีเจอร์ต่างๆ ตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เตรียมเปิดการให้บริการของร้านค้าทางการของ แบรนด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก การการันตีส่งของเร็วภายใน 1 ชั่วโมง รวมไปถึงการขยายการให้บริการอี-วอเชอร์ ในส่วนของโรงพยาบาล ร้านอาหาร สปา และประกันชีวิต และเพิ่มร้านค้าแบรนด์ดังๆ ระดับอินเตอร์เนชันนัล เพื่อให้ผู้บริโภค มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น