สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ว่า นายเจฟฟ์ ไซเอนต์ส ผู้ประสานงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำทำเนียบขาวแถลงว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ด้วยการอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไป แต่จะต้องแสดงหลักฐานว่าได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ก่อนขึ้นเครื่องบิน เช่นเดียวกับการตรวจคัดกรองหาเชื้อว่าจะต้องมีผลตรวจเป็นลบเท่านั้น ภายใน 3 วันก่อนเดินทาง นอกจากนั้นก็ยังจะตรวจคัดกรองด้วยเช่นกัน สำหรับพลเมืองชาวอเมริกันที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ก็ต้องตรวจหาเชื้อและมีผลเป็นลบเท่านั้นภายใน 1 วันก่อนขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับเข้ามาในสหรัฐอเมริกา และเมื่อเดินทางมาถึงแล้วก็ต้องตรวจหาเชื้อและต้องมีผลเป็นลบเท่านั้นอีกเช่นกัน


ที่สำคัญผู้ประสานงานโควิด-19 ประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า คนที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ไม่จำเป็นต้องกักตัว นโยบายใหม่นี้ ได้นำมาปฏิบัติทดแทนระเบียบปฏิบัติเดิมที่ออกโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐคนก่อน เมื่อปีที่แล้ว และเพิ่มมาตรการควบคุมเข้มงวดอีกเมื่อต้นปีนี้ในสมัยของรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยจำกัดการเดินทางสำหรับคนที่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน โดย 14 วันก่อนหน้านั้น ได้อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป จีน อินเดีย อิหร่าน สาธารณรัฐไอร์แลนด์ บราซิล และแอฟริกาใต้

นอกจากนั้นศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐยังจะบังคับให้สายการบินต่างๆ รวบรวมข้อมูลการติดต่อของนักเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบระบบติดตามตัว อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบแน่ชัดในขณะนี้ว่า วัคซีนที่ได้รับการยอมรับสำหรับการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ระบบของสหรัฐ และวัคซีนที่สหรัฐไม่ได้รับรองนั้นจะใช้ได้หรือไม่ ประเด็นนี้ผู้ประสานงานทำเนียบขาวบอกว่า จะเป็นการพิจารณาและตัดสินใจของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ


เครดิตภาพ AP