เมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 ที่ประตูทางออก 10 ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยกับภารกิจพิชิตมงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2023 ครั้งที่ 72 ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ ด้วยการคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สมาครอง และสร้างสถิติเป็นนางงามที่เข้ารอบลึกที่สุดในรอบ 35 ปี วันนี้ น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยสายการบินตุรกิชแอร์ไลน์ สำหรับบรรยากาศเป็นไปตามคาด มีกองทัพแฟนคลับนางงามมาคอยต้อนรับอย่างแน่นขนัด โดยมีทั้งป้ายเชียร์ ป้ายไฟที่ต่างจัดเตรียมกันมาสร้างกำลังใจให้กับแอนโทเนีย ที่สามารถคว้าตำแหน่งบนเวทีประกวดระดับจักรวาลสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 

ประวัติศาสตร์! แห่ต้อนรับสุดยิ่งใหญ่ ‘แอนโทเนีย’ กลับถึงไทยสนามบินแทบแตก

ทั้งนี้เมื่อ แอนโทเนีย โพซิ้ว มาถึงที่เวทีต้อนรับบริเวณประตู 8 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แอนโทเนียได้ถอนสายบัวถวายความเคารพและวางพวงมาลัยเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นแอนโทเนียได้สวมกอดคุณแม่ธัญรดี หวังสุขกลาง ก่อนจะไหว้สวัสดี และโบกมือทักทายแฟนๆ ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มทำเอาสาวแอนโทเนียน้ำตาซึม เมื่อได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น 

แอนโทเนีย โพซิ้ว รองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023  กล่าวว่า ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนมากค่ะ ทุกครั้งที่แอนพูดถึงแฟนๆ แอนจะน้ำตาซึมออกมาตลอด แอนรักทุกคนสุดๆ  พร้อมจะกลับบ้านนานแล้วนะคะ (หัวเราะสดใส) ดีใจมากที่ได้กลับมาเจอทุกคน มาร่วมฉลองกับทุกคน แอนทำเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง หรือเพื่อประเทศของเรา แต่เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนรู้ว่าเมื่อเรามีความฝัน พร้อมจะสู้มัน ขั้นแรกเราต้องมั่นใจในตัวเอง เราไม่ต้องเปลี่ยนโลกใบนี้ภายใน 1 วัน ถ้าเราร่วมมือกัน มั่นใจในตัวเอง เราจะทำได้ จากนี้ขอให้ทุกคนจับมือไปกับแอนนะคะ I love you so much 

“แอนอาจจะไม่ได้คว้าตำแหน่งมา แต่แอนเชื่อว่า แอนคว้าหัวใจของคนไทยทุกคน” รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 กล่าว

สำหรับความรู้สึกที่เห็นคนมารอต้อนรับอย่างล้นหลาม แอนโทเนีย เผยว่า รู้สึกช็อก ตั้งแต่ออกมาจากเครื่อง ตื้นตันใจและภูมิใจ ไม่คาดหวังว่าจะมีคนมาต้อนรับขนาดนี้ ได้เจอทุกคนรู้สึกมีความสุข ขอบคุณที่ทุกคนสละเวลามาทั้งที่เป็นวันหยุด แอนเลือกสวมชุดไทย เพราะมีความรู้สึกว่า ตอนที่แอนได้ใส่ชุดไทยหรือผ้าไทย เหมือนเป็นการส่งพลังให้แอน  ผ้าไทยมีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ ที่จะโชว์เคสให้ทุกคนเห็นความสวยงาม และเป็นการสร้างอินเนอร์ให้กับตัวเองด้วย 

ส่วนความรู้สึกในวินาทีที่จับมือกับนิการากัว แอนโทเนียยอมรับว่าหัวใจหล่นวูบลงมา “ตอนนั้นไม่ได้ยินอะไรเลย หูดับ ลุ้นให้เขาพูดว่าไทยแลนด์  แต่เขาไม่พูดไทยแลนด์สักที เขาพูดนิการากัว แต่ขอแสดงความยินดีกับนิการากัวมากๆ เพราะเขาเหมาะสมกับตำแหน่ง สำหรับแอนแล้วเต็มที่กับทุกอย่าง พอผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็เสียใจนิดนึง แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร นางงามจักรวาลไม่ใช่จุดสุดท้ายของเรา ถ้าเราไม่ชนะก็เป็นบทเรียนรู้ พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น เราไปหาความฝันอีกอันหนึ่งก็ได้ เราควรมูฟออน สำหรับแฟนๆ นางงามหลายคนที่ยังมูฟออนไม่ได้ แอนเชื่อว่า ทุกคนมีวินาทีของทุกคนที่จะมูฟออน เราไม่ต้องไปบังคับคนอื่นเพราะหลายคนมีความหวังไม่เหมือนกัน 

“ขณะตอนนี้แอนก็ยังไม่มูฟออน เพราะแอนยังยอมรับไม่ได้ แต่ก็ยินดีกับผู้ชนะ เพราะมันคือความสามารถของเขา เหมือนตอนที่เราอกหัก หรือมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต มันมีแค่โมเมนต์เดียวที่เราเสียใจ แต่มันไม่ใช่โมเมนต์ที่ไม่ดี มีอีกหลายโมเมนต์ที่ทำให้เราแฮปปี้ ตื่นขึ้นมาแล้วมีความสุข หลังจากนี้แอนก็มีภารกิจของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งมีความสำคัญเทียบเท่ากับมิสยูนิเวิร์ส” แอนโทเนียกล่าว

การเดินทางไปร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2023 ใช้เวลานานร่วมเดือน แอนโทเนียยอมรับว่าคิดถึงความแซ่บของอาหารไทยมาก อยากกินข้าวผัดกะเพราไข่ดาว เมื่อคุณแม่โทรฯ มาถามว่าอยากกินอะไรอีก ก็บอกท่านว่าอยากกินขนมจีนน้ำยาไก่ 

สำหรับการผลักดัน soft power ในฐานะนางงามนั้น แอนโทเนียมีมุมมองว่า การเป็นนางงามมีอิทธิพลและสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน ที่จะมีผลกระทบต่อการผลักดัน soft power ตัวเองไม่มีอะไรมาขาย ที่ให้ทุกคนมาซื้อ  แต่การที่ตัวเองใส่ชุดไทย กินน้ำพริก หรือการไหว้ แอนเชื่อว่า เป็นการสร้างอิมแพ็คในสังคมแล้ว.