สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมานากัว ประเทศนิการากัว เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ว่า นางคาเรน เซเลเบิร์ตตี และบุตรสาวของเธอ ถูกควบคุมตัวเมื่อมาถึงสนามบินในกรุงมานากัว และถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบินไปยังเม็กซิโก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก “เชย์นิส ปาลาซิโอส” คว้ามงกุฎในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2023 และเป็นนางงามจักรวาลคนแรกที่มาจากนิการากัว

“ลา เพรนซา” หนังสือพิมพ์รายวันของนิการากัว ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับฝ่ายค้านในประเทศ รายงานว่า รัฐบาลมานากัว ห้ามไม่ให้เซเลเบิร์ตตี เจ้าของแฟรนไชส์ “มิสนิการากัว” และบุตรสาวของเธอ เข้าประเทศ โดยไม่มีการระบุสาเหตุที่แน่ชัด และรัฐบาลยังไม่แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด

ด้านนางโจคอนดา เบลลี นักเขียนที่อาศัยอยู่ในสเปน หลังรัฐบาลมานากัวถอนสัญชาตินิการากัวของเธอ โต้แย้งว่า เซเลเบิร์ตตีถูกห้ามไม่ให้กลับเข้าประเทศ ตามคำสั่งของนางโรซาริโอ มูริลโล รองประธานาธิบดีนิการากัว และภริยาของประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ผู้นำนิการากัว แม้ปาลาซิโอสประสบความสำเร็จในการช่วยให้ชาวนิการากัว ได้รับชัยชนะในงานประกวดอันทรงเกียรตินี้

ยิ่งไปกว่านั้น สื่อฝ่ายค้านของนิการากัว ยังรายงานเพิ่มเติมว่า บ้านของเซเลเบิร์ตตี ในกรุงมานากัว ถูกตรวจค้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และสามีของเธอ ถูกควบคุมตัวในช่วงสั้น ๆ ด้วย

ขณะเดียวกัน องค์กรนางงามจักรวาล (เอ็มยูโอ) ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางหน่วยงานกำลังดำเนินการ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของสมาชิกขององค์กร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับกองประกวดนางงามของนิการากัว พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลมานากัว ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน

อนึ่ง ปาลาซิโอส ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านออร์เตกา อย่างกว้างขวาง นับตั้งแต่เธอคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2023 มาครองได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งภาพถ่ายที่เธอโบกธงชาตินิการากัว ในการประท้วงต่อต้านรัฐบาล เมื่อปี 2561 กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP