เมื่อวันที่ 28 พ.ย. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.นิพนธ์ บุญเกิด ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2บก.สอท.2 สนธิกำลังกรมศุลกากร และบก.ตม.1 นำหมายค้นเข้าตรวจสอบโกดังสินค้าของบริษัทอินซอฟท์ เบบี้ โปรดักส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เลขที่ 149/1 ซ.สะแกงาม 14 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน หลังสืบทราบว่าโกดังสินค้าดังกล่าวเป็นของเครือข่ายขบวนการแก๊งจีน COD หรือหลอกส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง 

ที่เกิดเหตุเป็นโกดังสินค้าให้เช่าขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นเข้าตรวจสอบ พบนางอารียา พิรุณสมบูรณ์สุข นายหยุน เฉิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4422-4423 /2566 ลงวันที่ 27 พ.ย. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จึงได้คุมตัวไว้ อีกทั้งได้คุมตัวบุคคลต่างด้าวกว่า 20 คน ขณะกำลังนั่งแพ็กสินค้า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลต่างด้าวทั้ง 20 คนบางส่วนมีหนังสือเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง ขณะที่บางส่วนไม่มีเอกสารยืนยันตัวบุคคล นอกจากนี้ได้ตรวจยึดกล่องพัสดุและสินค้าจำนวนมากกว่า 3 หมื่นชิ้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภท กล่องพลาสติก เครื่องสำอาง รองเท้า เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังพบกล่องพัสดุเปล่าที่เตรียมแพ็กของสุ่มส่งลูกค้าและสติกเกอร์รายชื่ิอที่อยู่ของผู้เสียหายที่ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตรวจค้นในสำนักงานพบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีรายชื่อของผู้รับถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด และยังมีสินค้าตีกลับจำนวนหนึ่งจึงได้ตรวจยึดไว้

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ประเภทคดีที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนมากที่สุดคือ หลอกขายของออนไลน์ โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 ต.ค. มีการแจ้งความ 3 .5 แสนราย เป็นเรื่องของการหลอกซื้อสินค้า 1.4 แสนราย ซึ่งทางนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการซื้อสินค้า พร้อมเร่งรัดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวน กระทั่งพบว่าคนร้ายมักจะใช้ช่องทาง  Cash On Delivery (COD) หรือ การส่งพัสดุสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง  จึงได้ดำเนินการสืบสวนทราบว่าพัสดุถูกส่งมาจากโกดังดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายค้นเพื่อเข้าตรวจสอบจับกุมผู้ต้องหาและผู้ร่วมขบวนการ

พล.ต.ต.นิพนธ์ กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวน พบว่าขบวนการนี้มีนายถูเซงเปียว หรืออาเพียว 44 ปี ชาวจีนเป็นผู้เช่า ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัว และจะใช้โกดังเป็นสถานที่แพ็กสินค้าใช้วิธีการเก็บสินค้าไว้ที่โกดัง แต่จะใช้วิธีนำสินค้ามาครั้งละ 3 หมื่นชิ้น เพื่อให้คนงานแพ็กสินค้าและติดลาเบล ก่อนขนย้ายเพื่อกระจายส่ง โดยเฉลี่ยแล้วการส่งแต่ละครั้งจะมีการตีคืนพัสดุ 2.5 หมื่นกล่อง ส่งสำเร็จ 5 พันกล่องคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าความเสียหาย 1 ล้านบาท โดยทำมากว่า 1 ปี เงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีใช้โกดังย่านบางกระดี่ ก่อนย้ายที่ตั้งมาที่โกดังแห่งนี้

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กล่าวว่า ขบวนการนี้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนบางส่วนเข้าใจว่าตนเองไม่ได้สั่งสินค้าอะไรเลย แต่จู่ๆ กลับมีสินค้ามาส่งที่บ้าน แต่ก็มีประชาชนบางกลุ่มประมาณ 20 เปอร์เซนต์ ที่ไม่เข้าใจไม่ทันระวังก็ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งวิธีการป้องกันมิจฉาชีพเหล่านี้คือ ถ้าเราไม่ได้สั่งสินค้าอะไรก็อย่าไปหลงเชื่อ หรืออีกกรณีถ้าไม่แน่ใจว่าได้สั่งหรือไม่ ให้ใช้วิธีอัดวีดีโอ เพื่อตรวจสอบว่าของตรงกับที่เราสั่งไปหรือไม่ถ้าของตรงตามที่สั่งก็ถือว่าจบ แต่ถ้าไม่ตรงตามที่สั่งก็ให้ส่งหรือตีกลับ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามสำหรับประชาชนหรือผู้บริโภคที่สั่งซื้อสินค้า บริการต่างๆ ทางออนไลน์แล้วเกิดปัญหาถูกหลอกลวงสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียน หรือปัญหา หรือขอคำปรึกษาเข้ามาได้ที่ หมายเลข 1441