สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า บริษัทคิสซิงเจอร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการเมืองและการทูตของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ว่า นายเฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีต รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ที่บ้านพักในรัฐคอนเนตทิคัต เมื่อวันพุธ รวมอายุได้ 100 ปี
คิสซิงเจอร์เกิดที่เมืองเฟือร์ต ในรัฐบาเยิร์น ทางตอนใต้ของเยอรมนี เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2466 ในครอบครัวซึ่งมีเชื้อสายยิว และอพยพมาตั้งรกรากในสหรัฐ ท่ามกลางช่วงเวลาตึงเครียดอย่างหนักทางการเมืองในยุโรป ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
คิสซิงเจอร์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และได้รับสัญชาติสหรัฐ เมื่อปี 2486 คิสซิงเจอร์เป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนานระยะหนึ่ง จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ ในสมัยประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เมื่อปี 2515 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ให้คิสซิงเจอร์เข้ามามีบทบาท ในการขับเคลื่อนนโยบายการเมืองและการต่างประเทศของสหรัฐ
ต่อมา คิสซิงเจอร์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ คนที่ 56 ของสหรัฐ เมื่อปี 2516 และอยู่ในวาระจนถึงปี 2520 คาบเกี่ยวระหว่างรัฐบาลนิกสัน กับรัฐบาลของประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด
ทั้งนี้ บทบาทสำคัญของคิสซิงเจอร์ รวมถึงการวางรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน การคลี่คลายสงครามยมคิปปูร์ เมื่อปี 2516 และการเจรจาที่นำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาปารีส เพื่อยุติสงครามเวียดนาม
คิสซิงเจอร์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อปี 2516 และเกษียณตัวเองออกจากแวดวงการเมือง หลังหมดวาระนักการทูตหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ทว่ายังคงได้รับเชิญให้ทำหน้าที่ทูตพิเศษของรัฐบาลวอชิงตันหลายยุคหลายสมัย และร่วมให้ความเห็นทางการทูตอย่างต่อเนื่อง โดยเขียนหนังสือออกมา 21 เล่ม
ขณะที่ผู้สันทัดกรณีจำนวนไม่น้อยมองว่า แน่นอนที่คิสซิงเจอร์ถือเป็นนักการเมือง และนักการทูตมากฝีมือในสายตาของฝ่ายหนึ่ง แต่ในอีกมุมหนึ่ง คิสซิงเจอร์คือ “อาชญากรสงคราม” จากการเกี่ยวข้องกับสงคราม การรัฐประหารที่นำชิลีเข้าสู่ยุคเผด็จการทหาร และการรุกรานในหลายประเทศ.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES