ชาวเน็ตจากจีนรายหนึ่ง ตั้งข้อสงสัยว่า ภรรยาของเขาที่ท้อง 6 เดือน บ่นว่าหิวเกือบตลอดเวลา ถึงแม้คุณหมอจะบอกว่าน้ำหนักขึ้นเร็วเกินไป แต่เธอก็ยังคงกินอาหารวันละ 7 มื้อ จนมียอดค่าสั่งอาหารเดลิเวอรี่มากกว่า 20,000 หยวน (ประมาณ 100,000 บาท) น้ำหนักเพิ่มขึ้นเกือบ 15 กิโลกรัม ภายในเวลา 6 เดือน ทำให้เขาโพสต์ถามชาวเน็ตแดนมังกรผ่านชุมชนสาธารณะว่า ภรรยาของเขาผิดปกติหรือเปล่า? มีผู้หญิงตั้งครรภ์คนอื่น ๆ ที่เป็นแบบภรรยาของเขาไหม?

เขาโพสต์ว่า ภรรยาของเขากินข้าวเช้า 2 มื้อ คือตอนเช้าตรู่ ตอน 8 โมงเช้า และตอนสาย ๆ ราว ๆ 10 โมง กินข้าวเที่ยง และกินข้าวตอนบ่ายสอง กินข้าวเย็นตอนหกโมงเย็น และกินมื้อดึกตอนเที่ยงคืนด้วย

ภรรยาของเขาหิวแทบจะตลอดเวลา บางครั้งก็นั่งร้องไห้บนเตียง เพราะว่าหิว แม้กระทั่งไปปลุกพ่อและแม่ของเขา เพราะว่าหิวมาก และเมื่อแม่สามีทราบ ก็รีบหาอาหารมาให้ทาน พร้อมกับบอกเขาว่า สตรีมีครรภ์มักหิวตลอดเวลา ถือเป็นเรื่องปกติ แต่เขาก็ยังคงสงสัยว่ามีผู้หญิงตั้งครรภ์คนอื่นที่เป็นแบบภรรยาของเขาหรือไม่?

โพสต์ของเขากลายเป็นกระแสที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาถกเถียงกันอย่างหนัก คุณแม่หลายคนเล่าประสบการณ์ว่า ตอนพวกเธอตั้งท้อง ก็เคยกินอาหารวันละ 7 มื้อเช่นกัน มื้อเช้า 7 โมง มื้อสาย ๆ กินของกินเล่น 10 โมง มื้อเที่ยง และตอนบ่ายสอง ทานของว่างตอน 4 โมงเย็น กินข้าวเย็นตอนทุ่ม และทานอาหารว่างตอนเที่ยงคืน แต่น้ำหนักก็ไม่ได้ขึ้นถึง 15 กิโลกรัม แค่หิวบ่อยเท่านั้น

มีคุณแม่ท่านหนึ่งเล่าว่า น้ำหนักขึ้น 3 กิโลกรัมใน 7 เดือน และเธอเป็นเบาหวานตอนตั้งครรภ์ด้วย

จากข้อมูลสุขภาพของจีน ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ควรมีน้ำหนักที่เกินพอดี หรือต่ำกว่าเกณฑ์มากจนเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากเกินไป อาจทำให้เกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ รวมทั้งโรคลมบ้าหมู หรือทำให้เกิดการแท้งลูก หรือส่งผลต่อความผิดปกติของทารกในครรภ์ ส่วนในกรณีที่น้ำหนักน้อยเกินไป มีโอกาสแท้ง คลอดก่อนกำหนด และทารกที่มีน้ำหนักน้อยเกินไปตอนแรกเกิด ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์จึงจำเป็นต้องควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม ไม่เพิ่มขึ้นมากเกินไป และไม่น้อยจนเกินไป.

ที่มา : ctwant
ภาพ : Daniel Reche / Pixabay