น.ส.สุวรรณี  วังกานต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ(สสช.) เปิดเผยว่า  สสช.ได้จัดทำการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2566 เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ค่าใช้จ่าย ภาวะหนี้สิน และทรัพย์สินของครัวเรือน โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกเดือน จากครัวเรือนตัวอย่างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยผลการสำรวจนี้ใช้ข้อมูลจากการสำรวจ 6 เดือนแรก (ช่วง ม.ค. – มิ.ย.2566) พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยเดือนละ 29,502 บาท โดยประมาณ 70% เป็นรายได้จากการทำงาน ซึ่งได้แก่ ค่าจ้างและเงินเดือน  43.8%  กำไรสุทธิจากการทำธุรกิจ  18.6% และกำไรสุทธิจากการทำการเกษตร  8.1%


  ขณะที่มีรายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการทำงานมีประมาณ 30 % ได้แก่ รายได้จากเงินที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐหรือบุคคลอื่นนอกครัวเรือน  13.0% รายได้ไม่ประจำและจากทรัพย์สิน  2.2% และรายได้ที่ไม่เป็นตัวเงินซึ่งอยู่ในรูปสวัสดิการ/ สินค้าและบริการต่าง ๆ 14.3%


สำหรับค่าใช้จ่ายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ผลสำรวจ พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเฉลี่ยเดือนละ 24,362 บาท โดย  35.2% เป็นค่าใช้จ่ายหมวดอาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ รองลงมาเป็นค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน  21.7 % และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ 15.9% สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น ค่าภาษี ของขวัญ เบี้ยประกันภัย ซื้อสลากกินแบ่ง/หวย ดอกเบี้ย เป็นต้น พบว่ามีการใช้จ่ายถึง 12.7 %

น.ส.สุวรรณี กล่าวต่อว่า โดยสรุปแล้ว เมื่อพิจารณาข้อมูลรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือน ตั้งแต่ปี 2556 จนถึง 2566 (6 เดือนแรก) พบว่า รายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 25,194 บาทในปี 2556 เป็น 29,502 ในปี 2566  เช่นเดียวกันกับค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 19,061 บาท ในปี 2556 เป็น 24,362 บาท ในปี 2566 ส่วนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือน เมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้ว มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน.