นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS เปิดเผยว่า เอไอเอสดำเนินธุรกิจเพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ผ่านความมุ่งมั่นตั้งใจในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และยกระดับโครงข่ายสื่อสารให้มีความอัจฉริยะ ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบ ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารวมกว่า 49.1 ล้านราย ทั้งจากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง ประกอบกับช่วงเวลาสำคัญที่กำลังเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุขในเดือนธันวาคม

เอไอเอสจึงถือโอกาสนี้เตรียมแคมเปญแห่งความสุขเพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจกับ AIS Points Celebration 2023 สุดยอดความพิเศษรอบด้าน มูลค่ารวมกว่า  80 ล้านบาท ทั้งการร่วมลุ้น แลก คืน คุ้ม บนแอป myAIS กับพอยท์แพลตฟอร์มที่วันนี้มีพาร์ทเนอร์ ทั้งผู้ประกอบการราย ร้านค้าถุงเงิน ร้านธงฟ้า โชห่วย สตรีทฟู้ด รวมกว่า 1.8 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ รวมถึงแบรนด์ดังจากสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง ซึ่งพร้อมส่งมอบประสบการณ์ความพิเศษที่พวกเราตั้งใจจัดมามอบให้อย่างเต็มที่ อาทิ ให้ลูกค้าใช้ 5 คะแนน AIS Points แลกสิทธิลุ้นรางวัลใหญ่ กับรถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal AWD Performance มูลค่า 1,599,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566-15 มกราคม 2567

นอกจากนี้ ยังแลกได้ตามใจ ใช้เพียง 1 คะแนน แลกคูปองส่วนลด/รับฟรี จากแบรนด์ชั้นนำ ไม่ซ้ำกัน จันทร์-ศุกร์ ตลอดเดือนธันวาคม ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม, ส่วนลดและ voucher, สติกเกอร์ LINE, เน็ตฟรี, ส่วนลดการเติมน้ำมัน, ส่วนลด Food Delivery, ฟรี วอลเปเปอร์เสริมดวง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่แอป myAIS ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 รวมถึงรับพอยท์คืน เมื่อใช้ AIS Points แลกเป็นส่วนลด หรือจ่ายแทนเงินสด ที่ร้านค้าถุงเงิน หรือร้านพารวย ที่มีสัญลักษณ์รับ เอไอเอส พอยท์ ทั่วประเทศ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ได้รับพอยท์คืน 100% สูงสุดไม่เกิน 50 คะแนน/หมายเลข พิเศษ 50,000 สิทธิตลอดโครงการ และยังสามารถเพิ่มพอยท์คุ้ม โอนคะแนนสะสมจาก 11 พาร์ทเนอร์ ฯลฯ

“ทั้งหมดคือความตั้งใจของพวกเราชาว AIS ในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด และแทนคำขอบคุณด้วยความสุขและความพิเศษไปสู่ลูกค้าทุกคน AIS ขอยืนยันว่าจะนำขีดความสามารถของพวกเราเข้าตอบโจทย์ทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับให้ยกระดับไปอีกขั้น เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโตของระบบเศรษฐกิจแบบร่วมกันต่อไป” นายปรัธนา กล่าว