เมื่อวันที่2 ธ.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยยอดสรุปจำนวนประชาชนที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 2 ธ.ค. 2566 เวลา 16.00 น. มีผู้ลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น จำนวน 37,579 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 36,338 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 1,241 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 19,061 ราย มูลหนี้ 1,528.555 ล้านบาท โดยมีพื้นที่/จังหวัด 5 ลำดับแรก คือ 1. กรุงเทพมหานคร มีผู้ลงทะเบียน 2,496 ราย เจ้าหนี้ 1,493 ราย มูลหนี้ 131.889 ล้านบาท 2. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 1,610 ราย เจ้าหนี้ 794 ราย มูลหนี้ 72.36 ล้านบาท 3. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 1,489 ราย เจ้าหนี้ 826 ราย มูลหนี้ 49.758 ล้านบาท 4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 1,441 ราย เจ้าหนี้ 638 ราย มูลหนี้ 61.876 ล้านบาท 5. จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้ลงทะเบียน 965 ราย เจ้าหนี้ 485 ราย มูลหนี้ 38.528 ล้านบาท
“พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบยังคงสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ผ่านระบบออนไลน์ https://debt.dopa.go.th หรือเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตนเองที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานครทุกแห่งทั่วประเทศ โดยสามารถขอรับคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567″ นายสุทธิพงษ์กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่าปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของพี่น้องประชาชนที่เป็นหนี้มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อดำรงชีวิตประจำวัน แต่กลับมีผู้ไม่ประสงค์ดีใช้วิกฤตมาเป็นโอกาสขูดรีดข่มเหงประชาชน อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ควบคู่กับการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้ครอบคลุมประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเชิงรุกด้วยการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน
“ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ข้อมูลที่ท่านได้ลงทะเบียนจะถูกรักษาไว้เป็นความลับ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเฝ้าระวังสอดส่องบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำความผิด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนแจ้งข้อมูลที่เป็นจริง เพื่อเป็นสารตั้งต้นในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องและเป็นธรรมอย่างตรงจุดต่อไป” นายสุทธิพงษ์กล่าว