ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ Woody FM on Stage with ENGFA CHARLOTTE ของคู่จิ้นชื่อดัง อิงฟ้า วราหะ และ ชาล็อต ออสติน ที่แฟนๆ ร่วมงานกันอย่างล้นหลาม โดยช่วงแรกของโชว์เป็นการพูดคุยแบบ Deep Talk จนสัมผัสได้ว่าทั้งคู่ได้ผ่านอะไรมามากมาย เล่าถึงการทำงานร่วมกัน สิ่งที่ต้องเจอของการเป็นบุคคลสาธารณะที่โด่งดังมากๆ กระแสต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา และความกดดันที่เกิดขึ้นที่ทำเอาทั้งคู่ถึงกับหลั่งน้ำตา


ชาล็อต เผยว่า “การทำงานด้วยกัน พอเราได้ทำงานด้วยกัน พี่ฟ้าจะเป็นคนที่เก่งขยัน พยายามผลักดันตัวอย่างตลอด ซึ่งเราก็นำไปตรงจุดดีตรงนี้มาปรับตัวกับเราบ้าง เช่น เราก็จะผลักดันตัวเองให้มันไปให้สูง เอาความคิดของเขา ความขยันของเขามาเป็นแรงผลักดันในการทำงาน หนูเรื่องคิดให้เยอะ คือต้องคิดให้รอบคอบ แล้วก็มีสติตลอดเวลา เพราะว่าสิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นมาหรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นบทเรียนก็จริงแต่ว่าเราก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นอีก แล้วหนูแค่รู้สึกว่าการที่มาอยู่จุดนี้มันทำให้หนูได้เห็นตัวเองว่าแบบเราอายุ 24 แต่ว่าเราเหมือนถูกดันให้มันโตไปไวกว่าอายุอะไรอย่างงี้ บางทีมันแบกรับไม่ไหวจนจิตใจมันแย่ค่ะ จุดที่แย่ที่สุด (ร้องไห้) มันไม่อยากอยู่แล้วค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่บนโลกนี้นะ มันไม่อยากอยู่ในจุดนี้ แค่รู้สึกว่าเด็ก 24 คนหนึ่งเขาก็มาทำตามความฝันเนอะ เขาไม่รู้หรอกว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้างในอนาคต หรือว่าในวันพรุ่งนี้หรือในชั่วโมงต่อไป เขาก็พยายามเติบโตให้ได้ดีที่สุดที่เขาจะทำได้ แม้ว่าบางทีเขาอาจจะล้มหรือพลาดอะไรก็แล้วแต่ ไม่รู้สิมันแค่ มันหนักเกินไปสำหรับหนูในบางครั้ง แต่พอในเมื่อมันเป็นไปแล้ว หนูก็ต้องไปต่อให้ได้ค่ะ จนบางครั้งแค่รู้สึกว่าอยู่จุดนี้มันยากมากเลย มันเหนื่อย อยากกลับ แค่อยากกลับบ้านไปหาพ่อหรืออะไรอย่างงี้ เวลาเจอเรื่องแย่ๆ มันก็ทำไม่ได้ เพราะว่าเราออกจากบ้านมาทำงานเอง ไม่ได้มีคนข้างหลังคอยช่วยหรืออะไร บางทีมันก็ตัวคนเดียว ถ้าวันหนึ่งไป มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก”

“หนูไม่รู้ หนูแค่รู้สึกว่าต้องไปต่อ ชีวิตมันต้องไปต่อ ก็เหมือนนาฬิกาที่มันต้องเดินอะไรอย่างงี้ ถ้าเมื่อไหร่มันหยุดเดินคือมันตาย ซึ่งหนูก็ยังไม่ได้อยากตาย ก็ยังอยากเดินต่อไปเรื่อยๆ ต่อให้มีปัญหาเข้ามามันก็อาจจะเป็นแค่บททดสอบหรือว่าบทเรียนในชีวิต พยายามคิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวมันก็ผ่านไป สู้ต่อ เก่งอยู่แล้วอะไรอย่างงี้ ก็บอกตัวเอง ส่วนหนึ่งที่ยังอยู่ต่อก็เพราะพวกเขา (แฟนคลับ) เวลาเจอเรื่องอะไรก็แล้วแต่ก็จะมี 2 ฝั่ง เราก็จะมองฝั่งที่รักเรามากๆ”

อิงฟ้า เผยว่า “คำว่าอิงฟ้ามหาชน เอาจริงๆ คำว่ามหาชนบางทีแบกกับความคาดหวังอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งแน่นอนคำว่าแบบอย่าง ตัวอย่างหรือว่าความเพียบพร้อมความเก่งอะไรหลายๆ อย่าง ที่คนรู้สึกว่าต้องทำยังไงที่เราสามารถจะเป็นขวัญใจของมหาชนได้ ซึ่งมันก็จะมีครึ่งๆ โอเคมันก็จะมีความภูมิใจที่เราสามารถมาอยู่จุดนี้ได้ กับอีกห้าสิบคือเมื่อไหร่ที่คุณล้มหรือเมื่อไหร่ที่คุณพลาดมันก็สามารถที่จะกลับมาทำร้ายเราได้เหมือนกัน หนูเป็นคนคิดเยอะค่ะ เหมือนจะเป็นคนไม่คิดเยอะ แต่จริงๆ เป็นคนที่คิดเยอะมากๆ”