กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันจับมามอง และพากันพูดถึงเป็นอย่างมาก สำหรับกลุ่ม “กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ (Buffet Lovers)” ที่เพิ่งจะจางหายไปได้ไม่นานมานี้ แต่ล่าสุดกลับเกิดดราม่าขึ้นมาอีกครั้ง โดยสมาชิกในกลุ่มที่นำเรื่องราวมาโพสต์ว่า ไม่ทานซูชิแล้ว ขนาดไม่ได้มาตรฐาน ถึงขั้นมีการนำสายวัด ไปวัดตัวซูชิ พร้อมทั้งได้ระบุข้อความว่า

“เราไม่ไหวกับซูชิที่ไม่รู้ขนาดจริง เป็นสิ่งที่ทำให้เรากิน แล้วไม่มีความสุข ซูชิก้อนนึงคับปาก ข้าวเยอะ กะจะเอาให้คนอิ่มแล้วกินเนื้อน้อยลง เพราะคนสั่งไม่รู้ว่ามันใหญ่มากๆ กลัวคนสั่งแบบไม่รู้เลยมาแนะนำ วัดขนาดมา อันที่วัดนี่ตัวเล็กนะ ตัวใหญ่กินหมดละ ตัวใหญ่อันขาวๆ ยำกับลาบม่อนคาวมากเพราะติดบราวน์ใหญ่มากตามในคลิป ถ้าตั้งใจมากินเนื้อสั่งเนื้อและซูชิน้อยๆ แล้วตัดครึ่ง

เอาเนื้อไปโปะข้าวกินค่ะ จะได้ไม่ตัดกำลังกินเนื้อ เนื้ออร่อย กุ้งใหญ่มาก หอยดี หมึกอร่อย พวกเนื้อสดอร่อย นอกนั้นดีหมด เนื้อดีตามชื่อร้าน กุ้งดีหมด เราแนะนำอย่าหลงสั่งซูชิเยอะ เราไม่เคยเจอใครมารีวิวซูชิร้านนี้ไงว่ามันใหญ่เกิน แล้วเราไม่ใช่สายเนื้ออะ ไม่ใช่ทางกะจะมากินม่อนอร่อยๆเห็นบอกนอร์เวย์” ทำให้เรื่องดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ทำให้ร้านดังกล่าวออกมาชี้แจงด้วยว่า “ขอแก้ต่างหน่อยนะครับ ^^ ทางร้านเราใช้ mold ในการปั้นข้าวซูชิแต่ละคำ ซึ่งจะได้ขนาดมาตรฐาน น้ำหนัก คำละ 20 g. เป็นขนาดที่เชฟญี่ปุ่นทั่วโลกใช้เป็นมาตรฐาน น้ำหนักอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความแน่นของการปั๊ม mold (ให้ปั้นทีละคำทำไม่ทันครับ)

ปกติทางร้านของเราไม่เคยสนใจคำว่า “เมนูตัดกำลัง” เลย จัดหนักจัดเต็มเนื้อๆเน้นๆมาโดยตลอด ท่านใดเป็นลูกค้าประจำกันคงทราบกันดี กลับกัน เมื่อไหร่มีการสั่งข้าวปั้น แอดจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่และแอบกังวล เพราะจะเสียเวลาในการทำเมนูนี้ค่อนข้างเยอะ ทำให้อาหารออกช้า อาจจะโดนบ่นได้ และเชฟที่ปั้นซูชิเป็น จ้างแพงด้วยครับ ไม่ไช่ใครๆก็ทำออกมาได้

ครั้นจะให้เชฟทำออกมาขนาดกระจุ๋มกระจิ๋ม แบบที่ขายกัน ชิ้นละ 5 บ. 10 บ. แอดว่ายกเลิกเมนูนี้ ยังจะดีกว่าครับ ทางร้านเราจะได้ไม่ต้องจ้างเชฟเก่งๆ แพงๆ เพื่อทำเมนูที่โดนตราหน้าว่าเป็นการตัดกำลัง”.