สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ว่ากระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ เรื่องการเชิญนายหวง ซีเหลียน เอกอัครราชทูตจีน เข้าพบ “เพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการ” เกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียด ซึ่งเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงมะนิลาเผยแพร่แถลงการณ์ของนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ว่าการที่เรือจีนเป็นฝ่ายขัดขวางภารกิจการส่งเสียงของเรือฟิลิปปินส์ “เป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพ และความมั่นคงระดับภูมิภาค”


ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์กล่าวว่า เรือยามฝั่งของจีนลำหนึ่ง ชนกระแทกเข้ากับเรือของฟิลิปปินส์ ที่กำลังปฏิบัติภารกิจส่งเสบียงและเชื้อเพลิง ให้กับทหารฟิลิปปินส์ ซึ่งประจำการอยู่ที่ซากเรือ “บีอาร์พี เซียร์รา มาเดร” บริเวณแนวสันดอนโธมัสที่สอง ใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ และเรือของจีนยังฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เรือลำหนึ่งของฟิลิปปินส์ด้วย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรือลำเลียงเสบียงของรัฐบาลฟิลิปปินส์ และเรือยามฝั่งของจีน เผชิญหน้ากันบริเวณแนวสันดอนสการ์โบโรห์ ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงกัน และเรือจีนเป็นฝ่ายฉีดน้ำใส่เรือของฟิลิปปินส์ เพื่อขัดขวางภารกิจการส่งเสบียงและเชื้อเพลิงให้กับเรือประมงของฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังจับปลาอยู่ในบริเวณนั้น ถือเป็น “เจตนาก่อกวนเพื่อให้เกิดอันตราย”


อย่างไรก็ตาม สำนักงานยามฝั่งจีนกล่าวว่า เรือของฟิลิปปินส์ “เป็นฝ่ายเจตนา” ที่จะพุ่งเข้าชนเรือยามฝั่งจีนที่อยู่ในบริเวณนั้น ทั้งที่เจ้าหน้าที่ของจีน “ประกาศเตือนแล้วหลายครั้ง” ซึ่งการที่เรือของฟิลิปปินส์ “เปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน” เป็นการดำเนินการที่ “ไม่เป็นมืออาชีพและก่อให้เกิดอันตราย” พร้อมทั้งระบุว่า เรือของจีนได้รับความเสียหาย.

เครดิตภาพ : AFP