แฟนบอลไทยอาจอดเชียร์ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ในการแข่งขัน “เอเชียนคัพ 2023” ที่ประเทศกาตาร์ ที่จะเริ่มกลางเดือนม.ค.ปีหน้า เพราะถึงตอนนี้ ยังไม่มีเจ้าใดซื้อลิขสิทธิ์

เอเชียน คัพ 2023 จะแข่งระหว่างวันที่ 12 ม.ค.-10 ก.พ.67 ทีมชาติไทย ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบ อยู่ในกลุ่ม F ร่วมกับ ซาอุดีอาระเบีย ทีมอันดับ 56 ของโลก, คีร์กีซสถาน ทีมอันดับ 98 ของโลก และโอมาน ทีมอันดับ 74 ของโลก จะเตะนัดแรกพบ คีร์กีซสถาน วันที่ 16 ม.ค.67

ในเรื่องการถ่ายทอดสด รายงานข่าวระบุว่า สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ส่งหนังสือถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีบริษัทเอกชนรายใดของไทยยื่นขอซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเอเชียนคัพ 2023 แม้แต่รายเดียว

ทั้งนี้ บริษัทที่ดูแลด้านสิทธิประโยชน์ของเอเอฟซีในเวลานี้คือ เอเชีย ฟุตบอล กรุ๊ป จากประเทศกาตาร์ ซึ่งได้ติดต่อกับบริษัทเอกชนของไทยเจ้าต่างๆ อยู่ราว 2-3 บริษัท แต่ฝั่งของไทยยังไม่ตกลงเนื่องจากข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งราคา รวมถึงความต้องการของไทยที่อยากซื้อลิขสิทธิ์แค่เกมที่ทีมชาติไทยลงแข่งขันเท่านั้น

ฟุตบอล เอเชียน คัพ ไม่ใช่ 1 ใน 7 รายการกีฬาที่อยู่ในกฎ Must Have ของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทำให้ภาครัฐไม่สามารถลงมาช่วยเหลือในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดได้ ส่วน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีหน้าที่แค่เป็นตัวกลางเจรจาให้เจ้าของลิขสิทธิ์ กับบริษัทของไทยเท่านั้น

เหตุการณ์ไร้บริษัทซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลระดับชาติ เคยเกิดขึ้นตอนฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก 2022” ที่แข่งเมื่อช่วงเดือนธ.ค.65-ม.ค.66 ก่อนที “นอท” พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซีอีโอกองสลากพลัส(ตอนนั้น) ทุ่มเงิน 67 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ให้ช่อง 9 MCOT HD เป็นผู้ถ่ายทอดสด.