เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของ “ครูบีม” ครูอัตราจ้างบนดอย ใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ที่ป่วยเป็นเนื้องอกผ่าตัดฉุกเฉิน ก่อนจะยื่นใบลาที่หลัง กลับถูกผู้บริหารโรงเรียนบีบให้ลาออกเมื่อบีบไม่สำเร็จ กลับถูกให้ประเมินไม่ผ่าน โดยได้ระบุเนื้อหาบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“อย่าเลื่อนผ่าน เรื่องราวของครูบีม เล่าสู่กันฟังทั้งน้ำตา เพียงเพราะคำว่า #ลูกจ้าง เสียงหนูไม่ดังตะโกนแล้วไม่มีใครได้ยิน เดิมครูบีม ตำแหน่ง ลูกจ้างชั่วคราว #ครูวิกฤต (งบ สพฐ.) แต่ ตชด. ได้ทำหนังสือขอไปที่เขต น้องสอบได้จึงได้ทำสัญญาและเริ่มงาน วันที่ 1 ธันวาคม 60 ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน (รร. ตชด……) ทำงานเต็มศักยภาพ การเดินทางแสนลำบาก เดินทางผ่านลำธาร และ ภูเขา ใช้เวลา 2ชั่วโมงครึ่ง ฤดูฝน 3ชั่วโมงครึ่ง ต้องกินนอนที่โรงเรียน

เหตุเกิดวันที่​ 29 พฤษภาคม 62​ น้องปวดท้องและเข้ารับการผ่าตัดช็อกโกแลตซีตส์ฉุกเฉิน (เย็บ10เข็ม) ซึ่งน้องได้แจ้งทางไลน์ รร. แล้วว่าขอลา แต่ไม่ได้เขียนใบลา เพราะทางรร.บอกให้บอกปากเปล่าก็ได้ จึงปฏิบัติตาม แต่ #ตกงาน เหตุผลเพราะว่าขาดราชการเกิน 15วัน แต่ในระหว่างที่รักษาตัวนั้นผู้ใหญ่แจ้งให้น้องจ้างคนในหมู่บ้านเพื่อไปสอนแทนตอนแรกจ้าง 200 ต่อมาผู้ให้จ้าง 300 แต่สุดท้ายตกงาน #ยื่นอุทธรณ์ร้องทุกข์ไปหลายที่ #แต่น้องไม่ได้รับความเป็นธรรม”

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์วันที่ป่วยหนัก กลายเป็นว่าตอนนั้นเธอป่วยฉุกเฉินไม่ได้เขียนใบลางาน ผู้บริหารโรงเรียนแจ้งว่าเธอขาดงานราชการเกิน 15 วันและถูกตำหนิและถูกบีบให้ลาออก เธอจึงไปลาออกจากต้นสังกัด ในตัวอำเภอแม่สะเรียง แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุของการลาออกได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระบุว่าสาเหตุจากการป่วยเป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอ จึงเว้นช่องว่างไว้ ประกอบกับผู้บริหารโรงเรียนอาจถูกตั้งคณะกรรมการสอบ เจ้าหน้าที่จึงยื่นใบลาป่วยให้เธอกรอก พร้อมกับนำใบรับรองแพทย์แนบให้กับผู้บริหารโรงเรียน

ต่อมา เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน 2562 ทางโรงเรียน มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของลูกจ้างชั่วคราว ประจำปีมีผู้ประเมิน 3 คน ประกอบด้วย ประธานกรรมการสถานศึกษา คือผู้ใหญ่บ้าน ส่วนกรรมการฯ คนที่ 2 คือผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กรรมการทั้งสองให้คะแนนผ่านคือ 90 คะแนน ซึ่งคะแนเต็ม 100 รวมได้ 180 คะแนน แต่ผู้บริหารโรงเรียน ไม่ยอมให้คะแนน และไม่ยอมเซ็นเอกสารประเมิน

ซึ่งต่อมามีการประเมินรอบสอง ปรากฏว่าผู้บริหารโรงเรียนให้คะแนนตน 57 คะแนน ส่วนคนอื่นให้คะแนน 60 และ 61 ตามลำดับ ทำให้คะแนนเธอตกเหลือ 59.37 เท่านั้น แต่จากการสังเกตพบว่ากรรมการทั้งสองคนให้ตนผ่านกลับระบุในความเห็นควรจ้างต่อไปแต่ควรปรับปรุงแก้ไข..