สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า เนื่องจากโปแลนด์และฮังการี สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน ผ่านโครงการจัดซื้อร่วมกัน นั่นจึงทำให้สองบริษัทยา ยื่นคำฟ้องดำเนินคดีกับทั้งสองประเทศ ต่อศาลในเบลเยียม

ตามข้อมูลของสำนักงานกฎหมาย ที่เป็นตัวแทนของโปแลนด์ในคดีนี้ บริษัทไซเฟอร์และไบเอ็นเทค เรียกร้องให้รัฐบาลวอร์ซอ ชำระหนี้ 5,600 ล้านซวอตือ (ราว 50,000 ล้านบาท) พร้อมดอกเบี้ย

ขณะเดียวกัน ฮังการีถูกกล่าวหาว่าละเมิดสัญญา และรัฐบาลปูดาเปสต์ ต้องเผชิญกับการเรียกร้องเงินจำนวน 60 ล้านยูโร (ราว 2,300 ล้านบาท) สำหรับวัคซีน 3 ล้านโด๊ส ซึ่งไฟเซอร์ยืนยันว่า คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ยังไม่ระบุถึงจำนวนเงินรวมที่ต้องการ

“ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค พยายามติดตามหนี้ของคำสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ซึ่งได้รับการตกลงกับรัฐบาลเหล่านี้ ตามส่วนหนึ่งของสัญญาในการจัดหาให้กับสหภาพยุโรป (อียู) ที่ลงนามในเดือน พ.ค. 2564” ทั้งสองบริษัท ระบุ

อีกด้านหนึ่ง นายโซลตัน โควักส์ โฆษกรัฐบาลบูดาเปสต์ และหัวหน้าฝ่ายการสื่อสารระหว่างประเทศของฮังการี ระบุในโพสต์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และไฟเซอร์ สมรู้ร่วมคิดในการขูดรีดเงินจากประเทศสมาชิกอียู

“มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ประเทศสมาชิกถูกบังคับให้สั่งซื้อวัคซีนเหล่านี้ ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น” โควักส์ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ศาลกรุงบรัสเซลส์ ระบุว่า การพิจารณคดีในเบื้องต้น จะมีขึ้นในวันที่ 30 ม.ค. 2567.

เครดิตภาพ : AFP