“ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย มวยซ้ายจอมอึด วัย 29 ปี จากบุรีรัมย์ ไฟต์ล่าสุดย้ำชัยเหนือ “ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ” กลับคืนสู่ความมั่นใจ ขอสานต่อฟอร์มแรงวัดฝีมือรุ่นน้องก้านยาว “นาบิล อานาน” ดาวรุ่งเชื้อสายไทย-แอลจีเรีย-ฝรั่งเศส ที่มาสู้ด้วยความมุ่งมั่นไม่เกรงบารมีของคู่ชกรุ่นพี่ โดยพร้อมแลกอาวุธเดือดถึงใจกันในกติกามวยไทย แคตช์เวต 136 ป. ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรก 19.30 น.

เมืองไทย vs ยอดเหล็กเพชร

หลังจบไฟต์ล่าสุด “เมืองไทย” ร่างกายบอบช้ำพอสมควรจึงหายหน้าจากรายการไปนานถึง 3 เดือน ก่อนต้องเจอกับความท้าทายใหม่ เจอคู่แข่งที่ขึ้นชื่อว่าชกด้วยยากอย่าง “นาบิล” ที่มีส่วนสูงมากกว่าถึง 20 ซม. โดยเจ้าตัวเร่งเครื่องฟิตซ้อมเต็มกำลังพร้อมขึ้นเวทีบู๊แหลกเพื่อลุ้นล่าแต้มชัยส่งท้ายปีแบบสวยงาม

“หลังจบไฟต์ชนะ ยอดเหล็กเพชร ผมมีอาการเจ็บที่บริเวณริมฝีปาก ใช้เวลาพัก 4-5 วัน อาการถึงเริ่มดีขึ้น ซึ่งมีข่าวลือว่าผมเจ็บหนักถึงขั้นกรามหักไม่ใช่เรื่องจริง ทุกอย่างยังปกติดีอยู่ แถมที่เจ็บก็ถือว่าไม่หนักมากด้วย โดยหลังจากนั้นผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพักฟื้นร่างกาย พักอยู่ประมาณเกือบ 20 วัน ถึงได้กลับมาวอร์มร่างกายรอรายการครับ”

“การกลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้งทำให้ผมมีความมั่นใจเพิ่มเยอะมากขึ้น ในเวตนี้ผมชกได้ดี ต้านทานสู้กับคู่ชกได้ไม่มีปัญหา ส่วนไฟต์เจอ นาบิล ผมเก็บตัวเต็มที่ 1 เดือนเต็ม ตอนนี้ผมพร้อมขึ้นชกมากครับ”

เมืองไทย vs นาบิล 

โดย “เมืองไทย” มองว่าถึง “นาบิล” จะถนัดในเวต 136 ป. มากกว่า ก็ไม่ใช่เรื่องให้ต้องคิดมากอะไร เพราะตัวเองก็เตรียมตัวมาพร้อมเต็มที่เช่นกัน รวมถึงยังมีอาวุธศอกเป็นทีเด็ด ถ้ามีโอกาสพร้อมงัดมาใช้เผด็จศึกแน่นอน

“จากที่ นาบิล บอกว่าตัวเองมั่นใจในการชกพิกัด 136 ป. มากกว่า ส่วนตัวผมไม่ติดใจอะไร เพราะคิดว่าตัวเองก็พร้อมสู้เต็มที่ในเวตนี้แล้วเหมือนกัน ถ้าวัดกันที่รูปร่าง เรื่องความหนาของร่างกาย น่าจะเป็นผมที่ได้เปรียบ ผมอาจเสียเปรียบคู่ชกแค่ในแง่ส่วนสูงเท่านั้น ผมจะเอาจุดแข็งด้านความแข็งแรงที่มากกว่า มาใช้ในการชกไฟต์นี้ครับ”

“อาวุธเด็ดที่สุดของผมคือศอกเหมือนเดิม ไฟต์นี้ต้องเจอกับ นาบิล ผมไม่แน่ใจว่าจะได้นำออกมาใช้หรือไม่ เพราะคู่ชกสูงยาวเข้าถึงได้ยาก แต่ถ้ามีโอกาส ผมพร้อมงัดลูกศอกออกมาใช้งานแน่นอนครับ”

สำหรับศึก ONE ลุมพินี 46 ศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดสู่แฟน ๆ ที่รับชมในประเทศไทยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายผ่านทางช่อง 7HD กด 35 ออกอากาศเวลา 20.30 – 23.30 น. (ประมาณคู่ 4 จนถึงคู่เอก) ส่วนทางเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และ ยูทูบ ONE Championship รับชมได้เฉพาะคู่ 1-6 เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. ส่วน Watch.onefc.com ออกอากาศคู่แรกจนจบการแข่งขัน

สำหรับประเทศอื่น ๆ จะให้บริการในรูปแบบ Pay-per-view (จ่ายเพื่อรับชม) โดยขึ้นอยู่กับนโยบายการออกอากาศในแต่ละประเทศ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Watch.onefc.com