เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 ป. ร่วมกันแถลงจับกุมนายฟง อายุ 68 ปี สัญชาติไต้หวัน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านย่านศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ นายทหารเรือยศ พล.ร.ต. อายุ 64 ปี จับกุมที่บ้านพัก แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ และอดีตนายทหารนอกราชการยศ น.อ. อายุ 66 ปี จับกุมที่บ้านพัก ซอยทวีวัฒนา 14 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4747, 4748, 4764/2566 ลงวันที่ 21 ธ.ค. ข้อหา “เป็นผู้ใช้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นระเบิดลูกเกลี้ยง 3 ลูก, กระสุนปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. 6 นัด, ลูกระเบิดยิง ขนาด 40 มม. (M79) 10 ลูก, อาวุธปืนขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ชุด และรถยนต์ 2 คัน

ช็อก! บุกจับ ‘พล.ร.ต.-น.อ.’ คาบ้านพัก เอี่ยวก่อเหตุสะเทือนขวัญอุ้มฆ่าหนุ่มไต้หวัน

พล.ต.ต.โสภณ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา กองปราบฯได้รับแจ้งจากนายเจมส์ ผู้เสียหาย ว่ามีความขัดแย้งกับบิดาของตนเรื่องการเป็นกรรมการบริษัทประกอบธุรกิจผลิต-ส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่ากว่าพันล้านบาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวก่อตั้งมาตั้งแต่ 2542 มีนายฟง นายเจมส์ และมารดาเป็นกรรมการบริษัท จนเมื่อปี 2565 นายฟง และนายเจมส์เกิดปัญหาฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและอาญา เพื่อให้เพิกถอนรายชื่อออกจากกรรมการบริษัทกว่า 20 คดี เนื่องจากนายเจมส์และมารดาจับได้ว่านายฟง ทุจริตงานในบริษัท กระทั่งวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ร.ต. ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายฟง ได้ติดต่อ อดีตนายทหารยศ น.อ. ที่เป็นเพื่อน นำลูกน้องเข้ามาข่มขู่ภายในบริษัท และทราบภายหลังด้วยว่านายฟง พล.ร.ต. และเพื่อน ได้สมคบกันวางแผนฆ่านายเจมส์ กับมารดา และทนายความ

พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า สำหรับแผนสังหารมีอดีตนายทหารยศ น.อ. เป็นผู้จัดหาทีมมือปืน เนื่องจากเคยเป็นครูฝึกหน่วยมนุษย์กบ หรือ “หน่วยซีล” มีประวัติโชกโชน ทั้งการใช้อาวุธ-วัตถุระเบิด และการต่อสู้ประชิดตัว เคยก่อเหตุฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด จ.ตาก เสียชีวิตเมื่อปี 2549 ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และเพิ่งจะพ้นโทษมาได้ไม่นาน ซึ่งภายหลังตำรวจล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าวจึงรีบทำการตรวจสอบ จนพบทีมมือปืนขณะติดตามนายเจมส์ และเข้าจับกุมเอาไว้ได้

จากการสอบสวน กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คนก็รับสารภาพว่ารับงานมาจริง มีค่าจ้างฆ่านานเจมส์, แม่ และทนายความ คนละ 5 แสนบาท หลังจากนั้นจึงมีการรวบรวมหลักฐาน ก่อนเข้าจับกุมผู้ต้องหาระดับสั่งการได้ครบทั้ง 3 คน เพราะผู้ต้องหาเข้าใจว่า มือปืนสามารถสังหารเหยื่อได้สำเร็จ ทำให้เกิดความตายใจ

เบื้องต้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขอให้การปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เพราะกรณีจ้างวานฆ่า แม้ตัวมือปืนจะยังไม่ทันได้ก่อเหตุ ก็ถือว่าผู้ใช้จ้างวาน เพราะมีการว่าจ้างให้กระทำผิดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามกฎหมายจะต้องรับโทษ 1 ใน 3

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการสอบสวนขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องที่เหลือต่อไปอีกด้วย ส่วนตัวผู้ต้องหาก็จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ดำเนินคดี

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนเข้าจับกุมเพียงไม่กี่วัน ผู้เสียหายเริ่มรู้ตัวว่ามีคนติดตามอยู่ตลอดเวลา จนเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับตนเอง ต้องส่งมารดาเดินทางกลับไปอยู่ที่ไต้หวัน.