เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการเปิดยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1) ตามแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่ายยาเสพติด พร้อมยึดทรัพย์ 140 ล้าน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดิมเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่มีการตรวจพบยาเสพติดหนัก 2 ตัน ประกอบด้วย ไอซ์ 999 กก. และเคตามีน 1,200 กก. เป็นของเครือข่ายนักค้ารายสำคัญ มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินกระทำความผิดได้แล้ว 140 ล้านบาท แต่พบว่ายังมีอีกพันกว่าล้านบาท ที่ต้องดำเนินการต่อไป โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด เพื่อเข้ารับฟังนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดให้เห็นผลอย่างจริงจังใน 1 ปี

ด้าน พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ได้แก่ 1.นายเอกวิชญ์ (สงวนนามสกุล) 2.นายนฤนาท (สงวนนามสกุล) 3.นายศุภากร (สงวนนามสกุล) 4.นายศิริทรัพย์ (สงวนนามสกุล) และ 5.เยาวชน อายุ 16 ปี พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกลาง เป็น ไอซ์ 999 กก. และเคตามีน 1,200 กก. ได้ที่บริเวณท่าเทียบเรือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จากการขยายผลพบว่าผู้สั่งการ คือ นายชาญชัย (สงวนนามสกุล) หรือกัปตันตุ้ย อดีตกัปตันเรือที่มีชื่อเสียงระดับท็อปของประเทศไทย ที่ผันตัวมาเปิดบริษัทเดินเรือ โดยเป็นผู้บริหารจัดการลำเลียงยาเสพติดทางเรือครั้งนี้ ได้เช่าเรือศรีมงคลทรัพย์ ไปส่งยาเสพติดในน่านน้ำสากล และพบว่าเคยมีการลักลอบลำเลียงมาแล้วถึง 7 ครั้ง ในช่วงเดือน มิ.ย.-ธ.ค. 66 โดยอ้างว่ามี “พ่อเลี้ยง” เป็นคนสั่งการใหญ่ ที่จะเป็นผู้สั่งการนายชาญชัย และทีมงานทั้งหมดนี้ และออกหมายจับนายอนุรุต ซึ่งเป็นตัวการสำคัญอีกคนหนึ่ง โดยเป็นลูกน้องของนายชาญชัย ทำหน้าที่ในการประสานงานกับหัวหน้าการ์ดบนเรือ รวมทั้งกับพ่อเลี้ยง และนายชาญชัย

พล.ต.ต.อดิศ กล่าวอีกว่า ต่อมาได้เปิด “ยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1) ภายใต้แผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย” เพื่อปิดล้อมตรวจค้นจับกุม รวบรวมพยานหลักฐานและยึดทรัพย์ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 คน มีเป้าหมายจุดปิดล้อมจำนวน 10 จุด ผลการปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 คน คือ นายอนุรุต (ลูกน้องของนายชาญชัย และเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญ) นอกจากนี้ ยังยึดทรัพย์สินของนายชาญชัยกับพวกทั้งหมด มีทั้งที่ดินและกิจการของนายชาญชัย เช่น ร้านอาหารตำทะลวง และกิจการเดินเรือและกิจการอื่น ๆ เงินสด ทองแท่งและทองรูปพรรณ พระเครื่อง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ จำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ทางสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบเพื่อตรวจยึดทรัพย์สินตามมูลค่ารวมประมาณ 140 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. กล่าวว่า โดยกลุ่มเครือข่ายนี้ มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดปริมาณมากออกไปยังต่างประเทศ ผ่านทางเรือมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งประเทศปลายทาง ได้แก่ ประเทศไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบลำเลียง อีกทั้งเครือข่ายนี้ มีลักษณะการทำงานเป็นองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก กระทั่งขยายผลจับกุม นายชานนท์ และนายอนุรุต โดยอยู่ระหว่างทำการสืบสวนขยายผลติดตามจับกุม นายชาญชัย เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญ ต่อไป.