จากรณี ตำรวจ ปส.-ป.ป.ส. เปิดยุทธการสยบไพรีปราบสมุทร (Poseidon 1) ล่า 100 เครือข่ายยาเสพติด ยึดทรัพย์ 140 ล้าน พร้อมออกหมายจับ นายชาญชัย วิรุณพันธ์ “กัปตันเรือ” ชื่อเสียงต้นๆ ระดับประเทศลอบขนยาเสพติดหนัก 2 ตัน ประกอบด้วย ไอซ์ 999 กก. และเคตามีน 1,200 กก. ลำเลียงส่งขายข้ามชาติ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จะพาย้อนไปดูประวัติของ นายชาญชัย วิรุณพันธ์ หรือ “กัปตันตุ้ย” ซึ่งถือว่าเป็นบรมครูนักเดินเรือที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานบริษัทเดินเรือแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากเป็นคนหัวไว ฉลาด มีไหวพริบ จึงได้ศึกษาหาขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมทั้งในและนอกตำรา จนไต่เต้าได้ขึ้นมาเป็น “กัปตันเรือ” ทั้งในบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ที่มีคนต่างชาติเป็นต้นเรือ เป็นต้นหน เป็นต้นกล จนเป็นยอมรับของแวดวงนักเดินเรือทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

นอกจากนี้ “กัปตันตุ้ย” ยังได้เขียนหนังสือตำรานักเดินเรือชื่อ “ความรู้นักเดินเรือ” ซึ่งเป็นหนังสือความรู้พื้นฐานของนักเดินเรือ ประวัติศาสตร์การเดินเรือ ความหมายและคำจำกัดความของการเดินเรือที่นักเดินเรือต้องทราบ การใช้ดวงดาวในการเดินเรือ ความรู้เกี่ยวกับแผนที่เดินเรือ เข็มทิศเดินเรือ มหาสมุทร การขึ้นลงของกระแสน้ำ ภูมิศาสตร์การเดินเรือ ประเภทของเรือและการต่อเรือ รวมถึงกฎหมายทางทะเลและองค์กรระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการเดินเรือระหว่างประเทศ ได้วางจำหน่ายตามแผงหนังสือชั้นนำของประเทศอีกด้วย

ช็อก! เร่งจับ ‘อดีตกัปตัน’ ตัวท็อปของประเทศ ลักลอบขนไอซ์-เคตามีน 2 พันโลข้ามชาติ

กระทั่งถูกศาลออกหมายจับ 5 ข้อหาประกอบด้วย 1.ร่วมกันพยายามส่งออกยาเสพติด ให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยต่อประชาชนทั่วไป 2.ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยต่อประชาชนทั่วไป

3.ร่วมกันพยายามส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 4.ร่วมกันพยายามจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และ 5.สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน.