ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.64 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการยาสูบ ตัวแทนภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย กว่า 50 คน เดินทางบุกกระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิต ขอยื่นหนังสือถึง รมว.คลัง และอธิบดีกรมสรรพสามิต คัดค้านข้อเสนอเครือข่ายสุขภาพให้ขึ้นราคาบุหรี่ 72-73 บาทต่อซอง เพราะเกรงจะทำอุตสาหกรรมยาสูบพังทั้งระบบ ซ้ำรอยการขึ้นภาษีเมื่อปี 60  

นายสุเทพ ทิมศิลป์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการยาสูบ (ส.ร.ย.) เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเครือข่ายสุขภาพที่ให้ขึ้นภาษีบุหรี่ให้ขายขั้นต่ำซองละ 72-73 บาท เพราะนับตั้งแต่ขึ้นภาษีมารอบก่อนเมื่อปี 60 ก็ทำให้อุตสาหกรรมยาสูบเสียหายอย่างหนัก เช่น การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ไม่สามารถนำส่งเงินรายได้เข้ารัฐ 4 ปี ถึง 34,000 ล้านบาท หากกรมสรรพสามิตจะขึ้นภาษีตามที่เครือข่ายสุขภาพเสนอมาจริง อาจทำให้ ยสท. อยู่ไม่ได้ พนักงานอีกกว่า 2,000 ครอบครัว คงต้องกลายเป็นภาระสังคม

นายกิตติทัศน์ ผาทอง ตัวแทนภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พวกเราชาวไร่ขอคัดค้านการเก็บภาษีที่สูงเกินไป เพราะทำให้ชาวไร่ได้รับผลกระทบมาโดยตลอด และที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐเท่าที่ควร เรื่องเงินชดเชย 160 ล้านที่รัฐรับปากว่าจะให้ ก็ติดตามทวงถามมา 2 ปีแล้วยังไม่คืบหน้า แล้วถ้ามีการขึ้นภาษีบุหรี่อีก ชาวไร่กว่า 30,000 ครอบครัว จะลำบากกว่าเดิม และถูกตัดโควตาปลูกยาสูบเพิ่มอีก ซึ่งที่ผ่านมารายได้ของชาวไร่ยาสูบหายไปกว่า 900 ล้านบาท ตลอด 4 ปีแล้ว