ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ผ่านพ้นช่วง “บ็อกซิงเดย์” ไปเรียบร้อย นั่นหมายความว่าฤดูกาลนี้ผ่านพ้นไปแล้วครึ่งทาง โดยใน 19 แมตช์เดย์ที่ผ่านมา แต่ละสโมสรมีสถิติที่น่าสนใจมากมาย และต่อไปนี้คือสถิติที่น่าสนใจของบางทีมที่น่าหยิบยกมาพูดถึงในช่วงครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา

“สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ซึ่งทำผลงานเซอร์ไพรส์หลาย ๆ คนด้วยการรั้งอันดับ 3 ของตารางนั้น กลายเป็นทีมที่เชี่ยวชาญเรื่องการดักล้ำหน้าคู่แข่ง โดยใน 19 เกมแรก ลูกทีมของ อูไน เอเมรี ดักล้ำหน้าคู่แข่งได้ถึง 95 ครั้ง เป็นสถิติมากที่สุดในลีก มากกว่าอันดับ 2 อย่าง “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ถึง 34 ครั้ง และมากกว่าค่าเฉลี่ยของลีก (34.4 ครั้ง) เกินเท่าตัว

“นกนางนวล” ไบรท์ตัน คือทีมที่มีเปอร์เซ็นต์ครองบอลเฉลี่ยต่อเกมถึง 61.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คือทีมที่มีเปอร์เซ็นต์ครองบอลเฉลี่ยจากช่วงครึ่งซีซั่นแรกน้อยสุดแค่ 32.4 เปอร์เซ็นต์ และนับตั้งแต่ คริส ไวล์เดอร์ กลับมาทำทีมแทน พอล เฮคกิงบอททอม นั้น มี 3 จาก 5 เกมที่พวกเขาครองบอลน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

ด้าน “สิงห์สำอาง” เชลซี คือทีมที่มีสถิติการจบสกอร์แย่ที่สุดในลีก เมื่อเทียบกับค่า xG หรือโอกาสที่น่าจะเป็นประตู โดยทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ยิงได้ 31 ประตู จากค่า xG ของทีมซึ่งอยู่ที่ 37.9 โดยใน 31 ลูกที่ทำได้ยังเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง 1 ลูกด้วย โดย นิโคลัส แจ๊คสัน คือคนที่ใช้โอกาสเปลืองที่สุด โดยยิงได้แค่ 7 ลูกจากโอกาสที่น่าจะเป็นประตูทั้งหมด 10.5 ครั้ง

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยิงไปแล้ว 39 ประตูจาก 19 เกมแรก โดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 17 ลูก (12 ประตู 7 แอสซิสต์) หรือเกือบครึ่งของประตูที่ทีมทำได้ ขณะที่ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ตัดบอลได้จากการเพรสซิงและนำไปสู้โอกาสยิงประตูมากสุดถึง 36 ครั้ง แต่ที่เหลือเชื่อคือในจำนวนนั้นไม่เป็นประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว และทั้งทีมที่ อเลฮานโดร การ์นาโช คนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสยิงเฉลี่ยต่อเกมเกิน 3 ครั้ง (3.8 ครั้ง)