จากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) คดีหมูเถื่อนภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดี นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดำเนินการรับคดีพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 คดี ได้แก่ คดีพิเศษที่ 126/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์สัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฏหมาย และได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว และคดีพิเศษที่ 127/2566 กรณีขบวนการนำเข้านำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดสำหรับดำเนินคดีทางอาญาตามฐานความผิด ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร รอง ผอ.กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค และในฐานะเลขานุการคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินคดีพิเศษที่ 127/2566 กรณีขบวนการนำเข้านำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือคดีการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนกว่า 10,000 ตู้ เบื้องต้นวานนี้ (8 ม.ค.) คณะพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้ว 4 ปาก มีทั้งกลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชน กลุ่มบริษัทห้องเย็นที่รับซื้อตู้เนื้อสัตว์เถื่อน ซึ่งการให้ข้อมูลของบริษัทห้องเย็นค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อสำนวนว่ารับซื้อจากบริษัทชิปปิ้งรายใดบ้าง ส่วนบริษัทชิปปิ้งเอกชนก็จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการได้รับว่าจ้าง เช่น บุคคลใดที่สั่งให้บริษัทชิปปิ้งเอกชนนำเข้าตู้เนื้อสัตว์ต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ พยานทั้ง 4 ราย ประกอบกิจการเกี่ยวข้องกับการจำหน่าย ขาย ส่ง สินค้าชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง เนื้อวัวเถื่อน และตีนไก่สวมสิทธิ์ ทั้งยังมีการนำเอาพยานเอกสารต่างๆ มาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่าง เอกสารรายชื่อผู้ว่าจ้างบริษัทชิปปิ้งเอกชนให้นำเข้าตู้ชิ้นส่วน-เนื้อสัตว์แช่แข็ง 

ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ม.ค.นี้ คณะพนักงานสอบสวนจะมีการเปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เบื้องต้น 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และระหว่างนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับบุคคลธรรมดา เบื้องต้น 5 หมายจับ ส่วนรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลและข้อกล่าวหา ขอละเว้นการเปิดเผยไว้ก่อน ทั้งนี้ การเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าตรวจยึดพยานหลักฐานและพยานวัตถุเพิ่มเติมสำหรับประกอบเข้าสำนวนคดีพิเศษที่ 127/2566 และขยายผลหาความเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่น ๆ ต่อไป.