สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่า นายเดวิด แคลฮูน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทโบอิ้ง หนึ่งในผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ระดับโลกของสหรัฐ กล่าวถึงเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นกับเที่ยวบินโดยสารของอะแลสกา แอร์ไลน์ส ซึ่งชิ้นส่วนบริเวณหน้าต่าง ที่ติดตั้งแทนประตูฉุกเฉิน หลุดออกมาทั้งหมด ระหว่างเดินทางจากเมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐออริกอน ไปยังเมืองออนแทรีโอ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า “เป็นความผิดของโบอิ้ง”
ทั้งนี้ แคลฮูนให้คำมั่นเกี่ยวกับ “ความโปร่งใส” ในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยโบอิ้งจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (เอฟเอเอ) และคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐ (เอ็นทีเอสบี)
As we continue to support the investigation into Alaska Airlines flight #AS1282 and work with 737-9 customers, visit this site for company updates and resources: https://t.co/1Lta4x0jjX
— Boeing Airplanes (@BoeingAirplanes) January 8, 2024
นับตั้งแต่เกิดเหตุ เอฟเอเอสั่งระงับใช้งานเครื่องบินโดยสารรุ่นที่ได้รับผลกระทบ คือ โบอิ้ง737 แม็กซ์9 แล้ว 17 ลำ ขณะที่ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส หนึ่งในสายการบินใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ซึ่งมีเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์9 อยู่ในฝูงบินมากที่สุด คือ 79 ลำ เผยแพร่รายงาน เกี่ยวกับการตรวจสอบสภาพเครื่องบินรุ่นดังกล่าวบางลำ พบว่า “มีความบกพร่อง” เกี่ยวกับการติดตั้งประตู รวมถึงการติดตั้งกลอนหรือสลักประตูซึ่งต้องแน่นหนากว่านี้
U.S. investigators are probing if a door plug on a Boeing 737 MAX 9 was properly bolted, after an Alaska Airlines flight made an emergency landing when a section of the aircraft ripped off midair. https://t.co/pSX6rbuQ8D pic.twitter.com/t2D34d7RSk
— The Wall Street Journal (@WSJ) January 9, 2024
อนึ่ง นับตั้งแต่เกิดเหตุฉุกเฉินกับอะแลสกา แอร์ไลน์ส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ยกเลิกเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์9 ไปแล้วมากกว่า 200 เที่ยว สอดคล้องกับคำแนะนำเพิ่มเติมของเอฟเอเอ ให้สายการบินตรวจสอบ “ความแน่นหนา” ของประตูเครื่องบิน.
เครดิตภาพ : AFP