ถูกสนใจหนักมากสำหรับเรื่องราวของพระเอกดัง นนกุล ชานน กับการได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ด้านภาพยนตร์จากรัฐบาล ซึ่งจะทำให้หลายคนได้เห็นการพัฒนาวงการบันเทิงด้านภาพยนตร์ที่ตรงจุดและมากขึ้นในอนาคต โดยหลังจากมีข่าวออกไปหลายคนก็พากันแสดงความยินดีกับหนุ่มนนกุลและอยากรู้ที่มาที่ไปของการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการฯครั้งนี้ ล่าสุดเจอตัวหนุ่มนนกุลในงาน Home Fill-in Interactive Exhibition” by Sammakorn X Eyedropper Fill เลยไม่พลาดต้องถามถึงเรื่องนี้สักหน่อย
นนกุล เผยว่า “เรื่องได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ด้านภาพยนตร์ ก่อนอื่นเลยก็รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการฯ เฉพาะด้านภาพยนตร์ ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่ามีอำนาจนาทีที่ยิ่งใหญ่มาก แต่จริงๆ ผมอยากจะบอกว่าอำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการฯ เป็นเหมือนคนที่รับผิดชอบและมีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพนั้นๆ เข้าไปเพื่อที่จะเสนอไอเดียหรือนโยบาย รวมถึงถ้ามีปัญหาใดใดก็ร่วมกันเสนอแก้ไขมากกว่า แล้วถึงจะส่งเรื่องเข้าคณะกรรมการอีกทีหนึ่งเพื่อรับการพิจารณา เรื่องการไปประชุมแล้ว ส่วนตัวผมบอกว่าเราได้เข้าไปหาความรู้ด้วย เพราะฉะนั้นก็จะมีข้อมูลใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน ซึ่งว้าวมาก พอเหมือนเรามีประสบการณ์การร่วมงานกับพี่ๆ สมาคมนักแสดงมาอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าการที่เราเข้าไปเพื่อคอมเมนต์เพื่อเสนอไอเดีย ก่อนจะได้รับตำแหน่งเราก็ทำอย่างนี้อยู่แล้ว พอได้รับตำแหน่งเราก็ทำอย่างนี้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นมันก็จะไม่ได้มีความกดดันอะไรเท่าไหร่ จริงๆ ผมเริ่มเข้ามาตอนหลังๆ ตอนที่เข้ามาเหมือนมีหลายโครงการที่รุดหน้าไปแล้ว พอผมเข้ามาก็เหมือนเป็นการรับข้อมูลมากกว่า และคอมเมนต์เพิ่มเติมในบางจุดเผื่อว่ามันจะสมบูรณ์ขึ้น”
“อย่างการผลักดันด้านภาพยนตร์ ผมอยากทำหลายอย่างมาก แต่ว่าไอเดียใหญ่ๆ ก็คงจะเป็นการยกระดับคุณภาพวงการบันเทิง เหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้าผมอยากให้เวลาที่นักแสดงหรือศิลปินบ้านเราไปร่วมงานที่ต่างประเทศ แล้วเขารู้สึกว่าได้รับเกียรติจากเราหรือถ้าศิลปินหรือนักแสดงต่างประเทศมาร่วมรายการที่บ้านเราก็อยากให้เขารู้สึกว่าเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานในบ้านเรา นี่เป็นคอนเซ็ปต์ที่ผมอยากให้มันเกิดขึ้น ซึ่งผมมองว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ก็แปลว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมเราต้องแข็งแรงมากๆ และเป็นที่ยอมรับทางสากลด้วย อันนี้ก็พูดกันตามตรงว่าถ้าว่างก็เข้า ถ้าไม่ว่างก็ไม่ได้เข้า ส่วนใหญ่อนุกรรมการทุกคนเป็นจิตอาสามา ทุกคนก็จะเข้าใจกันและกันว่ามีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่แน่นอนว่าทุกคนก็มีแพสชั่นในการที่จะพัฒนาวงการมากๆ ฉะนั้นก็จะสละเวลามาร่วมประชุมให้ได้มากที่สุด”
นนกุล เล่าต่อว่า “แต่ที่คนวิจารณ์ว่าผมอายุน้อยและประสบการณ์ไม่มากทำให้ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งอนุกรรมการฯ จริงๆ ก็เข้าใจและขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น ในอนุกรรมการทางด้านภาพยนตร์มีนักแสดงทั้งหมด 2 คนคือพี่ณัฏฐ์ (กิจจริต)และตัวผม จากอนุกรรมการทั้งหมด 22 คนที่มาจากหลากหลายแขนง เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนแล้วผมก็รู้สึกว่าเหมาะสม ส่วนเรื่องอายุหรือวัยวุฒิมันก็หลากหลายความเห็นครับ แต่ส่วนตัวผมมีแพสชั่นมากๆ ในการที่จะช่วยเหลือ ผมเข้าใจได้ครับ ไม่ได้นอยด์อะไร ผมมองว่าผลประโยชน์ที่เราอยากจะให้มันเกิดขึ้นกับวงการบันเทิงไทยเรามันมากกว่าที่จะมาห่วงคอมเมนต์เหล่านี้ ผมมองว่าถ้าจะให้เกิดความเคยชินจนทั่วโลกยอมรับน่าจะเป็น 10-20 ปี มันต้องวางแผนระยะยาว ไม่ใช่ว่า 3-4 ปีแล้วมันจะเกิดขึ้น คือมันต้องได้รับการยอมรับจากสากลโลก นั่นถึงเท่ากับว่าซอฟต์พาวเวอร์เกิดขึ้น”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก nonkul
