ตามเอกสารการยื่นฟ้องต่อศาลประจำเขตเหนือ รัฐอิลลินอยส์ ของ นิคโก ดีแอมโบรซิโอ ที่ปรากฏเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุเหตุผลในการฟ้องร้องว่าเขาถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดนสืบค้นประวัติ ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวและข้อหาอื่น ๆ อีกหลายกระทงจากฝ่ายจำเลย

ดีแอมโบรซิโอ ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 75,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 2.6 ล้านบาท) และการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อป้องกันฝ่ายจำเลยไม่ให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวเขาในพื้นที่สาธารณะในกลุ่มเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “Are We Dating the Same Guy?” (เรากำลังเดทกับหนุ่มคนเดียวกันอยู่หรือเปล่า?) ในเขตพื้นที่เมืองชิคาโก

กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มย่อยของเครือข่ายกลุ่มเฟซบุ๊กขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “Are We Dating the Same” ซึ่งสมาชิกของกลุ่มจะเข้ามาโพสต์ข้อความ และพูดคุย แสดงความเห็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับผู้ชายที่คนในกลุ่มพบเจอในพื้นที่ท้องถิ่นนั้น ๆ โดยมีการตั้งกลุ่มย่อยเหล่านี้ประจำพื้นที่ในเมืองใหญ่ต่างๆ หลายแห่งทั้งในแคนาดาและสหรัฐ

ตามเอกสารการร้องเรียนระบุว่า กลุ่มเฟซบุ๊ก “Are We Dating the Same” อ้างว่าเป็นกลุ่มที่ให้ข้อมูลเพื่อการระวังภัย ปกป้องผู้หญิงจากผู้ชายที่มีพฤติกรรมไม่ดีหรือเป็นอันตราย

กลุ่มย่อยของเครือข่ายนี้ในชิคาโกมีสมาชิกมากกว่า 80,000 คน อ้างว่าทางกลุ่มเพียงต้องการปกป้องผู้หญิงด้วยกัน และจะไม่ตำหนิหรือวิจารณ์ผู้ชาย

แต่ทาง ดีแอมโบรซิโอ อ้างว่ามีผู้ชายหลายพันคนที่เข้าข่ายโดนวิจารณ์ในเชิงเสียหายหรือทำให้เสียชื่อเสียง โดยที่บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตกเป็นหัวข้อในการวิจารณ์ พร้อมกับเสริมว่าทางกลุ่มไม่มีการตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ว่าเป็นจริงหรือเท็จ

ในกรณีของดีแอมโบรซิโอ เขาระบุในเอกสารว่ามีหญิงคนหนึ่งที่เขาเคยมีเพศสัมพันธ์ด้วยการยินยอมพร้อมใจ ได้นำภาพถ่ายของเขาไปโพสต์ลงในกลุ่ม จากนั้นก็มีสมาชิกหญิงหลายคนเข้ามาแสดงความเห็นในเชิงลบต่อตัวเขา เช่น “จิตไม่ปกติ”, “ชอบเรียกร้องให้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา” และมีอยู่คนหนึ่งที่กล่าวหาว่าเขาหลบหน้าเธอ หลังจากที่พวกเขาร่วมหลับนอนด้วยกัน

ดีแอมโบรซิโอ กล่าวว่าโพสต์ดังกล่าวและข้อความแสดงความเห็นเหล่านั้นทำให้เขารู้สึกอับอาย ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจและเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งผลกระทบต่อการทำงานและทำให้เขาต้องสูญเสียรายได้ เขาจึงตัดสินใจฟ้องร้องหญิงสาวผู้โพสต์กระทู้และผู้แสดงความเห็นทั้งหมด 27 คน

ในเอกสารยื่นฟ้องยังระบุชื่อแผนกต่าง ๆ ของบริษัทเมตา ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก ในฐานะจำเลย โดยกล่าวหาว่าบริษัทได้รับผลกำไรจากการโฆษณากลุ่มเหล่านี้ ซึ่งมีโพสต์แสดงเนื้อหาที่ทำให้บุคคลอื่นเสื่อมเสียและล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว

นอกจากบริษัทเมตาแล้ว กลุ่มจำเลยที่โดน ดีแอมโบรซิโอ ฟ้องร้องยังมีเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอีกหลายแห่ง เช่น  Patreon,  arewedatingthesame.com และ GoFundMe

ที่มา : businessinsider.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES