เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.เมืองพัทยา ชลบุรี พ.ต.ท.ฐานานท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ทำการควบคุมตัว ด.ช.ดิน อายุ 13 ปี ด.ช.วัฒน์ อายุ 14 ปี ด.ช.พัฒน์ อายุ 14 ปี นายวิน อายุ 15 ปี และนายณิ อายุ 15 ปี พร้อมของกลางมีดปลอกผลไม้ยาว 50 ซม. 2 เล่ม มีดขอ 1 เล่ม และรถ จยย. 2 คัน มาทำการสอบสวน หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีร่วมกันปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวคูเวต มีผู้เสียหายหลายราย
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (22 ม.ค.) นายโมบารุค อาลี (Mr.Mobaruk Ali) อายุ 23 ปี ชาวคูเวต เพิ่งเดินทางมาเที่ยวเมืองพัทยาได้ 2 สัปดาห์ ถูกกลุ่มเยาวชน 4-5 คน ใช้มีดข่มขู่ปล้นทรัพย์ ภายในซอยเย็นสบายพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยขณะก่อเหตุ วัยรุ่นถือมีดข่มขู่เพื่อปล้นเอาเงิน แต่ผู้เสียหายไม่ยอม ทำให้กลุ่มเยาวชนคนร้ายพยายามใช้มีดไล่ฟัน แต่โชคดีมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วย ทำให้กลุ่มเยาวชนดังกล่วแตกฮือพากันวิ่งไปขึ้นรถ จยย. ขี่หนีไปคนละทาง โดยผู้เสียหายใช้โทรศัพท์มือถือขายคลิปไว้ขณะซ้อน จยย. พลเมืองดีไล่ตามไว้ได้ ซึ่งจังหวะนั้นมีตำรวจชุดสืบสวนผ่านมาพอดี สามารถควบคุม 1 ในผู้ก่อเหตุได้ คือ ด.ช.วัฒน์ อายุ 14 ปี ส่วนที่เหลือพากันหลบหนีไปได้ ก่อนสืบสวนขยายผลลงพื้นที่ ตามจับกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุ พร้อมยึดของกลางมีดที่ใช้ก่อเหตุได้ทั้งหมด
สอบถาม นายวิน อายุ 15 ปี 1 ในเยาวชนที่ก่อเหตุ เบื้องต้นเล่าว่า ร่วมกับเพื่อนทั้งหมดออกมาเที่ยวเล่นในเขตเมืองพัทยาประจำทุกคืน กระทั่งมาถูก นายไมล์ อายุ 17 ปี และนายบีม อายุ 16 ปี ซึ่งหลบหนีอยู่เป็นหัวโจก ชักชวนให้มาก่อเหตุปล้นเงินนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อนำเงินไปแต่งรถ จยย. และเที่ยวเตร่ ซึ่งนายไมล์ ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่เคยถูกจับ วันนี้จึงออกมาก่อเหตุ โดยทำสำเร็จมาแล้ว 1 ครั้ง ได้เงินมา 1,400 บาท แบ่งกัน 7 คน คนละ 200 บาท โดยไปแบ่งเงินกันภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ จากนั้นขี่รถ จยย. ตระเวนได้ประมาณ 1 ชั่วโมง มาพบผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่เปลี่ยว จึงลงมือก่อเหตุซ้ำอีก แต่ไม่ได้เงิน เพราะมีชาวบ้านเข้ามาช่วย ก่อนถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเยาวชนทั้ง 5 คนแต่อย่างใด อยู่ระหว่างประสานกลุ่มสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเยาวชนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามตัวอีก 2 คน ที่เป็นหัวโจก มาสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
