เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวริศ ชูกล่อม และน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจากนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนโครงการของกรมการข้าว และกรณีที่นายศรีสุวรรณ เคยร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนโครงการต่างๆ อยู่ในรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565-2566 ไม่ใช่โครงการที่อยู่ในรายการงบประมาณฯ ปี 2567 ที่ตนกำลังจัดการอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนกำลังทำความสะอาดบ้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเรื่องร้องเรียนใดก็ตามที่ถูกส่งมาถึง ตนจะส่งทำหนังสือถึงปลัดกระทวงเกษตรฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และถ้าตรวจพบว่ามีสิ่งใดที่ส่อไปในทางทุจริต เราจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนแต่ละเรื่อง ซึ่งนี่คือกระบวนการภายในกระทรวงเกษตรฯ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของบุคคลภายนอกนั้น ตนยังยืนยันว่าจะต้องตรวจสอบ และต้องให้ความเป็นธรรมแก่ 2 ฝ่าย ทั้งกรมที่กำลังเป็นประเด็น และฝ่ายผู้ต้องหาทั้ง 3 คนดังกล่าว โดยกรณีของผู้ต้องหาในคดี ตนสั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีข้าราชการของกระทรวง เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกัน ตนมอบหมาย รมช.เกษตรฯ ทั้ง 2 คน และปลัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ลงไปตรวจสอบข้อร้องเรียนต่อโครงการของ 2 กรม ที่กำลังเป็นประเด็น ซึ่งถ้าตรวจสอบพบว่ามีมูล ก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวน ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้ประชาชนกำลังให้ความสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงแล้วนำเสนอต่อสังคมให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงกรณีดังกล่าวหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตามปกติ ไม่ว่าตนจะทำอะไร จะต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ทราบตลอด

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการแอบอ้างว่ามีรัฐมนตรีในกระทรวงฯ สั่งการให้ตรวจสอบโครงการดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนกำลังสั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในกระทรวงเกษตรฯ ว่าผู้ถูกกล่าวหาไปพบ รมช.เกษตรฯ คนใด เราอย่าไปกล่าวหารัฐมนตรี เพราะถือเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องตรวจสอบก่อน ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ตนทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พบว่าไม่ได้มีแค่กระทรวงเกษตรฯ ที่เจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม ตนมีที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายที่เป็นทนายความประมาณ 20 คน ดังนั้น ใครจะทำอะไรในกระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องระวัง

เมื่อถามย้ำว่าการรีดไถเกิดที่กรมเดียวใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีหลายกรม แต่ยังไม่เป็นประเด็นออกมา ส่วนกรณีคลิปเสียงที่มีการพูดพาดพิงกรมฝนหลวงฯ ด้วยนั้น ตนได้รับรายงานจากอธิบดีกรมฝนหลวงและกรมการข้าว และได้ให้ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายไปให้คำแนะนำแก่ทั้งสอง ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ากระทรวงเกษตรฯ ในยุคของตนต้องไม่มีเรื่องพวกนี้เด็ดขาด

เมื่อถามว่าในคลิปเสียง นายยศวริศอ้างว่ามีผู้ใหญ่ให้มาเคลียร์ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “คลิปเสียงที่ผมได้รับมามากกว่าที่สื่อมวลชนได้รับ ผมกำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวน การที่ผู้ถูกกล่าวหาไปพาดพิงผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมือง หรือพาดพิงผม ผมจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าคนที่ถูกพาดพิงเกี่ยวข้องไหม แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น มันน่าจะเป็นเรื่องของราคาคุย และผมขอฝากพี่น้องที่รักอาชีพจะเป็นนักสะท้อนสังคม ขอให้พึงระวัง จะคุยกับนักกฎหมายต้องระวัง เพราะนักกฎหมายไม่โง่”

“มีเบ็ดอยู่รอบกระทรวงฯ เลยนะ ใครจะเดินเข้าไปกระทรวงฯ ระวังติดเบ็ด ถ้าอธิบดีฯ ทำผิดจริง เขาคงไม่เปิดหน้าชกขนาดนี้ และท่านอธิบดีมีหลักฐานอยู่ในมือค่อนข้างแน่น รายงานให้ผมทราบหมดแล้ว แต่ผมไม่อยากพูดถึง มีผู้อยู่เบื้องหลังอีกเยอะ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าอธิบดีกรมการข้าวมั่นใจใช่หรือไม่ จึงออกมาตลบหลังนายศรีสุวรรณ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เขาไม่ได้ตลบ เขาถูกข่มขู่มั้ง ถ้าฟัง เราต้องฟังให้หมด คลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ ตัดต่อออกมาบางส่วน ตัดนิดตัดหน่อย ต้องเปิดฉบับเต็มไปเลย คลิปเต็มมียาวกว่านี้”