จากกรณีเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ Social Hunter 2022 ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “พฤติกรรมแบบนี้เรียกว่า ….. ได้ไหมใช้ความรุนแรงแต่วัยเด็ก โตขึ้นจะเป็นเช่นไร เด็กอายุ 11 ขวบ โดนรุ่นพี่ อายุ 13 ปี เตะจนฟันร่วงเกือบหมดปาก จ.ศรีสะเกษ คุณพ่อน้องกำลังเดินทางจาก กทม. กลับไปดำเนินการ เบื้องต้นทราบว่าน้องนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ แล้วเดินมาเตะ ต่อไปน้องจะใช้ชีวิตยังไง ที่สำคัญคือ สภาพจิตน้องและพ่อแม่ กฎหมายเด็กและเยาวชนอีกแล้วนะ” หลังโพสต์ข้อความได้ไม่นาน ได้มีชาวเน็ตแห่เข้ามากดไลค์กดแชร์ พร้อมกับแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางลงพื้นที่ ไปพบกับ น.ส.กรรณิการ์ ศรีรักษา อายุ 30 ปี พร้อมกับ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ขวบ ลูกชาย ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากเหตุดังกล่าว ได้เดินทางมาที่ สภ.โนนคูณ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงค่าเสียหายกันกับคู่กรณี ซึ่งมี น.ส.มุทิตา อารีย์ อายุ 29 ปี แม่ของ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมญาติมาร่วมรับฟังและเพื่อเป็นสักขีพยานกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งเบื้องต้นการเจรจาในรอบแรกไม่สามารถตกลงกันได้ ฝ่ายของผู้เสียหายจึงลุกเดินออกจากห้องไกล่เกลี่ย เนื่องจากไม่พอใจ

ด.ช.เอ เล่าว่า  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนกับ ด.ช.บี อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองศรีสะเกษ กับเพื่อนหลายคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน พากันมาเล่นปารองเท้าใส่ขวด บริเวณสนามหน้ากองทุนหมู่บ้าน ปรากฏว่า ด.ช.ซี อายุ 12 ปี ปารองเท้าไปโดนขวดล้มแล้ว และปาร้องเท้าใส่ขวดใหม่อีก ทำให้ ด.ช.บี ไม่พอใจ แต่ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร ทันใดนั้น ด.ช.บี ได้เดินเข้ามาเตะที่ขาของตนอย่างแรง 2 ครั้ง ทำให้ตนล้มลง จากนั้น ด.ช.บี ได้เตะเข้าที่ปากของตนอีก 1 ครั้ง ทำให้ฟันหักกระเด็นออกไปจากปาก 4 ซี่ เลือดไหลทะลักออกมาจากปาก ญาติได้นำตนส่งโรงพยาบาลโนนคูณ จนถึงขณะนี้ยังมีอาการเจ็บปวดมากที่บริเวณปาก

น.ส.กรรณิการ์ กล่าวว่า  สำหรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนได้พาลูกไปพบแพทย์ที่คลีนิคทำฟัน เพื่อสอบถามราคาค่ารักษาอาการเบื้องต้น ทราบว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งค่าทำฟันใหม่ ค่าทำกระดูกเทียม และค่ารักษาอื่นๆ อยู่ที่ราคา 400,000 บาท และค่าทำขวัญอีก 100,000 บาท แต่ทางผู้ก่อเหตุได้ต่อรองขอจ่ายค่าทำขวัญเพียงแค่ 30,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นจะทยอยจ่ายให้

อีกทั้งทางผู้ก่อเหตุก็เสนอมาอีกว่า จะพาลูกตนไปหาหมอและเลือกคลินิกเอง ตนจึงรู้สึกไม่สบายใจ และรู้สึกเสียใจ ที่ทวงความยุติธรรมให้ลูกไม่ได้ ลูกก็จะเป็นปมในใจแบบนี้ตลอดไป ถ้าผู้ก่อเหตุไม่ชดใช้ตามที่ผู้เสียหายต้องการ ก็จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้าน น.ส.ไปรยาวีย์  อายุ 36 ปี ป้าของ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเมื่อทางฝั่งผู้ก่อเหตุรู้ว่าเด็กทะเลาะและมีปัญหากัน ก็รู้สึกผิดและได้ไปกราบขอโทษคุณตา กับ คุณยาย ของน้องผู้เสียหายในทันที และก็ดูแลช่วยเหลือในการพาไปหาหมอและให้ค่ารถเดินทางไปหาหมออยู่เรื่อยๆ แต่ทำไมทางผู้เสียหาย ต้องนำเรื่องไปแจ้งเพจข่าวต่างๆให้มาโจมตีกันอย่างสนุกสนาน ทำให้น้องผู้ก่อเหตุรู้สึกเสียใจ ไม่กล้าสู้หน้าคนเลย เรื่องค่าเสียหายค่าทำขวัญ ที่น้องผู้เสียหายแจ้งมานั้น ทางเราก็รับที่จะพาน้องไปพบแพทย์และเสียค่าใช่จ่ายทั้งหมดตามเงื่อนไข

แต่ในส่วนของเรื่องค่าทำขวัญ ได้มีการต่อรองขอลดลงมาอีกให้เหลือ 30,000 บาท ได้ไหม เพราะทางเราก็ไม่มีเงิน แต่ค่าใช้จ่ายในการรักษา จำนวน 400,000 บาท นั้น ยังคงเดิม และจะจ่ายตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน อีกทั้ง ทั้งสองฝ่ายก็เป็นคนบ้านเดียวกันอีกด้วย แต่ทางแม่ของน้องผู้เสียหายก็ยังไม่ยอมลดให้ เลยสรุปกันไม่ได้ อยากฝากไปยังทางด้านของผู้เสียหาย ให้เห็นใจเราด้วย และฝากถึงเพจข่าวต่างๆ ให้แก้ไขข้อมูลและลบออกให้ด้วย เพราะตอนนี้ทางน้องผู้ก่อเหตุและครอบครัวอยู่ยากมาก