ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักศึกษายกพวกตีกัน โดยเฉพาะกรณีล่าสุดนายวราวุธ หรือ เร ขันคำนอก อายุ 25 ปี นักศึกษาช่างกลปทุมวัน ถูกกลุ่มสถาบันคู่อริใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง จนเสียชีวิตบริเวณหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 ม.ค. ว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ รวมถึงได้พูดคุยกับ อว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด สำหรับกรณีที่อุเทนถวายต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ต้องย้ายไปวิทยาเขตอื่นเพื่อลดความรุนแรงในการปะทะกัน และทางตำรวจจะเป็นเจ้าภาพในการนัดพูดคุยกับทุกหน่วยงาน

ต่อข้อถามว่าศิษย์เก่าได้พูดคุยกับทางกระทรวงฯ หรือไม่ น.ส.ศุภมาส ตอบว่า มีการพูดคุยกันตลอด โดยศิษย์เก่ายินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนผ่านและย้ายโรงเรียน ไม่สามารถทำเพียงชั่วข้ามคืนได้ อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าแผนดำเนินการดังกล่าวอาจล่าช้า จึงต้องไปเร่งให้ทำเร็วขึ้น เพราะนักศึกษาในอุเทนถวาย ขณะนี้ไม่ได้มีจำนวนมากเป็นหลักพัน จึงไม่ใช่เรื่องยากมากที่จะเร่งแผนการย้าย และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ทุกคนต้องตระหนักว่ามันเป็นเรื่องที่ลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงต้องให้ความร่วมมือ โดยตำรวจเข้ามาช่วยเต็มตัวในการป้องกันและระงับเหตุ ทางมหาวิทยาลัยแถวนั้นและทางสถาบันฯห่วงชีวิตนักเรียนกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นทุกคนยินดีให้ความร่วมมือ

ต่อข้อถามกรณีมีศิษย์เก่าส่วนหนึ่งของอุเทนถวาย ยังปลุกระดมไม่ให้มีการย้ายที่ตั้งของสถาบัน น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ศิษย์เก่าที่เข้ามาประชุมในรูปแบบคณะกรรมการนั้น ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ฝ่ายนักศึกษาที่มาประท้วงนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก แต่เขามาตามระบบตามหน้าที่ เราต้องใช้ความนุ่มนวลไม่ให้เกิดการปะทะกัน อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องใช้เวลาเปลี่ยนผ่าน ขนย้าย และเตรียมตัวให้มีสถานที่ใหม่รองรับ

ต่อข้อถามตำรวจมีแผนรับมือกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการย้ายอย่างไร น.ส.ศุภมาส ตอบว่า ตำรวจเตรียมทำหน้าที่เต็มที่ในการป้องกันภัยและการดูแล ซึ่งจะมีการครบรอบวันสถาปนาอุเทนถวายในเร็วๆ นี้ ต้องดูแลและป้องกันไม่ให้มีคนโดนลูกหลงอีก

เมื่อถามว่ามีกรอบเวลาในการย้ายที่ตั้งของอุเทนถวายหรือไม่ น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ไม่ได้มีกรอบเวลาแต่ต้องทำให้เร็วที่สุด โดยตนมีคำสั่งไปถึงอธิการบดีอุเทนถวาย แล้วว่าต้องไม่เปิดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นอำนาจของอธิการบดีที่ต้องไปดูข้อกฎหมาย ขณะที่งบประมาณต่างๆ ที่ได้ถูกส่งไปให้อุเทนถวาย เราต้องพิจารณาว่าถูกระเบียบหรือไม่ หากมีคำสั่งแบบนี้แล้วต้องรอดูว่าอธิการบดีจะทำตามคำสั่งรัฐมนตรีหรือไม่

ต่อข้อถามการย้ายอุเทนถวายจะสามารถดำเนินการจบในรัฐบาลนี้หรือไม่ น.ส.ศุภมาส ตอบว่า ควรจะเพราะถ้างดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คงจะย้ายง่ายขึ้น เมื่อไม่ได้ปะทะกันซึ่งหน้าโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงจะน้อยลง เนื่องจากไม่ได้เจอกัน