สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่า สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมียนมา รายงานการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับพรรคการเมือง ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยลดจำนวนสมาชิกขั้นต่ำจาก 100,000 คน ลงเหลือ 50,000 คน และพรรคการเมืองนั้นต้องดำเนินการตามรูปแบบและขั้นตอน หรือการหาเสียง ครอบคลุมอย่างน้อย 1 ใน 3 ของเขตเลือกตั้งที่ส่งผู้สมัคร ลดลงจากเดิมคือครึ่งหนึ่ง


แม้รายงานไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน เกี่ยวกับเหตุผลของการปรับเปลี่ยนกฎ อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนครบรอบ 3 ปี การที่กองทัพของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ทำรัฐประหาร โค่นอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมา ประกาศยุบพรรคการเมือง 40 พรรค หนึ่งในนั้นคือพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจี เนื่องจากจดทะเบียนไม่ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด


อย่างไรก็ดี พรรคการเมืองซึ่งขึ้นทะเบียนทันเวลา แน่นอนว่า รวมถึงพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฝ่ายทหาร และพ่ายแพ้ให้กับพรรคเอ็นแอลดี ในการเลือกตั้งทั่วไปทั้งสองครั้งล่าสุด เมื่อปี 2558 และ 2563


เดิมรัฐบาลทหารของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย เคยยืนยันการจัดการเลือกตั้งทั่วไป “ในเดือน ส.ค. 2566” แต่ต่อมายอมรับว่า พื้นที่มากกว่าหนึ่งในสามยังไม่อยู่ในความควบคุมของกองทัพ “ได้อย่างเบ็ดเสร็จ” หมายความว่า ทุกภาคส่วน “ยังคงต้องการเวลา” เพื่อ “การเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ” ด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้งทั่วไปจึงยังไม่ควรเกิดขึ้น “ท่ามกลางความเร่งรีบ”.

เครดิตภาพ : AFP