จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “คิด ทำ ทิ้ง” โพสต์ภาพอาคารเรียนที่ชำรุดพร้อมระบุข้อความว่า “ว่าด้วยเรื่องของภัยธรรมชาติที่ทำให้เกิดต้นไม้หักโค่นล้มทับอาคารเรียนของเด็กอนุบาล ของโรงเรียนทุ่งไทรทอง ตั้งอยู่ ริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน หมู่ 6 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังเกิดเหตุ ครูย้ายเด็กนักเรียนไปเรียนที่ห้องสมุดเป็นการชั่วคราวผ่านมานับปี อาคารหลังนี้ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมแต่ประการใดหากปล่อยไว้นาน อาจจะต้องทิ้งอาคารจริงๆ ฝากผู้ใหญ่ที่ดูแลในพื้นที่เข้าช่วยเหลือด้วย นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง นายกิตติ บุญศรี ผอ.โรงเรียนทุ่งไทรทอง นายอาคม บริสุทธิ์ ผอ.โรงเรียนบ้านบางด้วน ประธานกลุ่มโรงเรียนสุโสะ-บ้านนา ก่อนลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าอาคารเรียนดังกล่าว มีขนาดความกว้างประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 40 เมตร สภาพชำรุดตามที่ปรากฏในภาพจริง ตรวจสอบตัวอาคารพบว่าโครงสร้างเหล็กหลังคา ฝ้าเพดาน ระบบไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย ฝาผนังบางส่วนแตกร้าว และสภาพภายในและนอกอาคารทรุดโทรมมีหญ้าเข้าปกคลุม เกิดจากการที่ไม่ได้ใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน   

นายกิตติ ผอ.โรงเรียนบ้านทุ่งไทรทอง กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 ต.ค.63 ที่ผ่านมา เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำ ทำให้ต้นไทรขนาด 3 คนโอบ อายุกว่า 40 ปี ที่อยู่บริเวณหน้าอาคารเรียนล้มทับจนได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุได้แจ้งไปยัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรังเขต1 (สพป.) ซึ่งเป็นต้นสังกัด เพื่อรายงานถึงความเสียหาย และขอรับงบประมาณเพื่อซ่อมแซมแต่ปรากฏว่าอาคารดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของทาง อบต. ไม่ได้เป็นทรัพย์ของโรงเรียน ทำให้ทางเขตพื้นที่ฯ ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณลงมาซ่อมแซมได้ จึงได้มีปรึกษากับทางชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา ก่อนประสานไปยัง อบต. ก่อนที่จะให้คำตอบว่า ไม่สามารถซ่อมแซมได้ เนื่องจากทาง อบต. ไม่ได้ใช้งานอาคารหลังดังกล่าวแล้ว และไม่ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการซ่อมแซมเอาไว้ ทำให้อาคารไม่ได้รับการซ่อมแซมปรับปรุงแก้ไขมาจนถึงปัจจุบันนี้

นายกิตติ กล่าวอีกว่า โรงเรียนจึงต้องย้ายนักเรียนที่ใช้อาคารดังกล่าวมาทำการเรียนการสอนภายในห้องสมุด ที่มีขนาดเล็กและแออัดแทนที่ ประมาณ 1 ภาคเรียนกว่าแล้ว ก่อนจะมาหยุดทำการเรียนการสอนภายในโรงเรียนหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 และหลังจากนี้หากมีเปิดการเรียนการสอนภายในโรงเรียนอย่างปกติ ปัญหาอุปสรรคย่อมเกิดขึ้นแน่นอน เพราะพื้นที่จะแออัด อีกทั้งในสถานการณ์โควิด-19 จะไม่เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรค จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลในความเสียหายของอาคาร เบื้องต้นจากการที่ให้ช่างมาประเมินการซ่อมแซม คาดว่าต้องใช้งบประมาณ 1-2 แสนบาท หรือหากผู้มีจิตศรัทธาอยากที่จะช่วยเหลือเพื่อซ่อมแซม สามารถสอบถามได้ที่ 08-8753-0770

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง อบต.ดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อมูลและปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้