เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี การเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ว่า นายกรัฐมนตรีเรียกไปพบพร้อมกำชับ เรื่องการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ ถ้ามองในมุมคนนอกก็ห่วง ที่เหมือนมีช่องว่าง แต่ขอให้เชื่อตนอย่างหนึ่งว่า ขบวนเสด็จมีการวางระบบไว้ค่อนข้างจะดี แต่เราไม่สามารถบอกได้เพราะคนจะทราบหมดว่ามีการวางไว้อย่างไร
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ว่า การถวายความรักษาความปลอดภัยองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ มีการวางระบบ แต่การที่จะมีกลุ่มเห็นต่างเข้ามาแสดงออกลักษณะเช่นนี้ ตนได้กำชับตั้งแต่วันแรกว่าเราจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่มี โดยไม่ต้องรอให้สื่อมวลชนถาม เพราะบอกหมด ตนเชื่อว่าเยาวชนที่ออกมา ไม่ได้ออกมาเอง มีขบวนการที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งขอทางตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน และในวันที่ทำคดีเสร็จ ทุกคนก็จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำคดีค่อนข้างละเอียด โดยตนได้มีการย้ำทีมว่าอย่าเร่งทำ เพราะไม่เช่นนั้นจะผิดพลาด ฉะนั้นขอเวลาอีก 2 วัน เดี๋ยวจะเห็นการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับ พร้อมยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะมีการจับกุมดำเนินคดีอย่างแน่นอน โดยขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและเร่งรัด พนักงานสอบสวนให้ดำเนินการ เพื่อปิดข้อครหาทั้งหมดและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะเราไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นโจมตีสถาบันด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการสั่งการแต่ดำเนินการตามหลักฐาน และขอให้เชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“เรื่องการถวายความปลอดภัยพวกเรา (ตำรวจ) ดูแลพระองค์ท่านด้วยชีวิต พวกพี่ดูแลด้วยชีวิตของพวกพี่จริงๆ”
เมื่อถามว่าเยาวชน 2 คน ที่ก่อเหตุมีคดีติดตัวอยู่จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กำลังดำเนินการอยู่ ถ้างั้นขอรออีก 2 วัน เพื่อให้พยานหลักฐานใหม่ ในการแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น ความยอมรับว่าจะมีการถอนประกัน
เมื่อถามว่าจะออกหมายจับมากกว่า 2 คนหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปฏิเสธการตอบคำถามโดยระบุว่า ขอให้ดำเนินการในเบื้องต้นก่อน และเมื่อวานนี้ตนก็ได้รายงานนายกรัฐมนตรีไปหมดแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าระหว่างการรอถอนประกันเยาวชน กลุ่มดังกล่าวอาจจะเคลื่อนไหวยังพื้นที่อื่น ผบ.ตร. ระบุว่า เรามีการดูแลติดตามเขาอยู่ และอย่างเมื่อวานนี้ที่มีเหตุการณ์ปะทะ 2 ฝ่าย เราก็ติดตามดูอยู่ แต่อย่างไรการแสดงพฤติกรรมที่ห้างสรรพสินค้าวันนี้ จะเห็นได้หลายอย่างว่าเขามีการเตรียมการ ซึ่งยังไม่ได้แสดงอะไรบางอย่าง เหมือนมีการเตรียมการเพื่อไม่ให้ผิดข้อกฎหมายในบางข้อ พร้อมเชื่อว่ามีคนที่ให้คำแนะนำ แต่จะมีนักการเมืองอยู่ด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่ขอยืนยัน แต่ยืนยันว่าในทางสอบสวน มีบุคคลช่วยเหลือให้คำปรึกษาและไกด์ไลน์อย่างแน่นอน
ส่วนจะเอาผิดผู้อยู่เบื้องหลังได้มากน้อยเพียงใด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และในทุกการกระทำที่เขาดำเนินการ
เมื่อถามว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความล่าช้า
“โอ้โห อย่างพี่เหรอ ไม่เอาจริงเอาจังเรื่องถวายความปลอดภัย น้อง (สื่อมวลชน) ก็รู้ว่าพี่ดูแลเรื่องนี้มานานมาก ไม่ต้องห่วงครับ เราบอกแล้ว ข้าราชการทุกคนเป็นข้าราชการในพระองค์ที่ดูแลความปลอดภัย มันเป็นภารกิจข้อแรกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลความปลอดภัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ มันเป็นสิ่งที่พวกพี่ต้องทำเป็นข้อแรกเลยของข้าราชการตำรวจ ไม่ต้องห่วง พี่ทำให้ไม่มีข้อครหาและให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวมีการกระทำความผิดซึ่งหน้า ผบ.ตร. ระบุว่า ทางตำรวจสืบตั้งแต่ก่อนมีเหตุการณ์ ระหว่างมีเหตุการณ์ และหลังมีเหตุการณ์ ไม่ใช่แค่ซึ่งหน้าเท่านั้น ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาตรงนี้ จะทำให้ข้อกล่าวหาแตกต่างกันมาก และประเด็นดังกล่าวก็อาจจะเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเพิกถอนประกันต่อศาลได้ พร้อมย้ำว่าไม่เกิน 2 วัน ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ที่ออกมาไม่ได้หิวแสง หรือรังแก และที่ออกมาช้าก็อยากจะทำให้ละเอียด พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการหว่านหรือรังแก หากสอบพยานถึงใครก็คนนั้น
เมื่อถามว่าขบวนการดังกล่าวอยู่เพียงในประเทศหรือรวมถึงต่างประเทศด้วยนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า มีเพียงในประเทศเท่านั้น หากพยานหลักฐานสาวถึงใครก็จะเรียกมาทั้งหมด และจากการสอบสวนมีแนวทางว่า มีคนช่วยเหลืออย่างแน่นอน
ส่วนจะเรียกผู้อยู่เบื้องหลังมาพูดคุยหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่า ขณะนี้ได้รายงานนายกรัฐมนตรีไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกขั้นหนึ่ง