เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในซีรีส์พิเศษ “เลือก•เคลื่อนไทย 2566 EP1 : 90 วันชี้ชะตา” กล่าวตอนหนึ่งว่า องค์กรอิสระประเทศเราไม่อิสระด้วยตัวเองในการวางกติกา บังคับใช้กติกา แต่ของประเทศเรามีนักจัดการให้เอาคนนั้นไปอยู่ตรงนี้ เพื่อประโยชน์ของกลุ่มจึงเป็นเรื่องที่ทำให้การรักษากติกาแย่มากๆ อย่างการเลือกตั้งเมื่อปี 62 ถือว่าล้มละลาย เพราะมีการโกงอย่างชัดเจนและเครื่องคิดเลขไฟดับ แต่วันนี้การที่จะปรับปรุงตัวดีขึ้น กลับไม่มีการเตรียมการ มีแต่การเตรียมรอการได้เปรียบเสียเปรียบให้รัฐบาล ฉะนั้นวันนี้ประชาชนต้องกำหนดชีวิตตัวเอง ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

ขณะที่ในกติการบัตรเลือกตั้ง 2 ใบนั้น ทำให้ต้องมีจำนวน ส.ส. มากขึ้น วันนี้ในพรรครัฐบาลมีการแตกพรรคขึ้นมาใหม่ จึงไปเอาทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน และขุดทั้ง ส.ส.รุ่นเก่าที่สอบตก หรือตกอายุไปแล้ว โดยเฉพาะพรรคที่ตั้งใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จึงได้คนเก่าๆ ที่ตกค้างมากกว่าคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน การปฏิวัติตน ในปี 49 พลังประชาชนชนะ แต่รัฐประหารรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มันเป็นสิ่งที่เขายังทำไม่เสร็จ แต่เป็นภารกิจที่ทำให้ลงเหว เพื่อสืบทอดอำนาจ

นายทักษิณ กล่าวต่อไปว่า การอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไม่มีผลอะไรกับรัฐบาลมากนัก แต่เรื่องที่ยุบหนีนั้น คิดว่าคงไม่กล้ามีการยุบสภาหนี เพราะเขายังไม่พร้อม แต่ถ้าหากฝ่ายค้านมีของดีจะสามารถพูดตอนไหนก็ได้หากยุบสภาหนี มันขึ้นอยู่กับความพร้อมของพรรค รทสช. มากกว่า ถ้าพรรคท่านพร้อมก็ยุบ พรรคไม่พร้อมก็ไม่ยุบ ส่วนเรื่องสภาล่มมี 2 ปัญหาคือ ความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล เช่น กฎหมายกัญชาที่มีพรรคร่วมรัฐบาลไม่นั่งเป็นองค์ประชุม และอีกปัจจัยคือ รัฐบาลคุมเสียงไม่อยู่ แต่ฝ่ายค้านเอาองค์ประชุมมาเป็นเกมในการต่อสู้ ไม่ใช่เรื่องของ ส.ส. ขี้เกียจ หรือไม่ นั่นอยู่ที่วิปของรัฐบาลที่คุม ส.ส. แต่ปกติแล้วรัฐบาลก็จ่ายเงินเดือน ส.ส. เยอะอยู่แล้ว จึงไม่น่าหนีไปไหน

เมื่อถามว่า ในห้วงเวลา 90 วันที่เหลือก่อนถึงวันเลือกตั้ง ตอนนี้มีคนปล่อยกระแสมาแล้วเลือกตั้งไม่มีหวัง นายทักษิณ กล่าวว่า เขาร่างรัฐธรรมนูญทีไรเขาเห็นหน้าตน ตอนนั้นพรรคไทยรักไทย (ทรท.) 14 ล้านคน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ไม่มีมาก่อน ตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มี 3 ล้าน ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองมีสมาชิกเยอะ ก็เลยออกกติกายากขึ้น ทุกกติกากลับมาไทยรักไทยและผม ทำให้กติกาบิดเบี้ยว

“ประชาชนถูกทหารใช้อาวุธมาปฏิวัติแล้วประเทศตกต่ำ แล้ววันนี้ประชาชนต้องใช้ปากกามาปฏิวัติกลับเพื่อให้ประเทศกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นประชาชนย่อมคิดได้ถ้าปฏิวัติกลับด้วยปากกาต้องมียุทธศาสตร์ร่วมกันจะเลือกอย่างไรให้ได้รัฐบาลมาแก้ปัญหาประชาชน รักประชาชนแท้จริงไม่ใช่รักแต่ปาก”

เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเลือกพรรคนี้จะไปจับพรรคนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่ต้องเลย พรรคการเมือง การรวมรัฐบาลพรรคแกนนำต้องผลักดันนโยบายที่สัญญากับประชาชนไปก่อน ดังนั้นพรรคการเมืองที่จะมาร่วมต้องไม่ขวางนโยบายเขาแน่นอน ถ้าเป็นพรรรคหัวใจประชาธิปไตยยังไงก็เอาพวกประชาธิปไตยด้วยกัน มันเป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องคิดเป็น

“ยกตัวอย่างง่ายๆ คุณจะบอกว่าให้พรรคการเมืองไปรวมกับพรรคที่โดนปฏิวัติ ให้ไปรวมกับพรรคที่ปฏิวัติตัวเองมา มันไม่แน่ใจ ใครจะทำอย่างนั้น แต่ปัญหาหลักการเลือกตั้ง นโยบายที่เสนอไป ประชาชนถูกใจ ประชาชนจึงเลือกมาเป็นอันดับ 1 ดังนั้นต้องรีบผลักดันนโยบายนั้นก่อนเพื่อน พรรคไหนมาขัดแย้งไม่ยอมเอานโยบาย เขาก็ไม่เอา โดยเฉพาะกระทรวงที่ตกลงกัน เป็นกระทรวงที่ต้องผลักดันนโยบาย สมมุติต้องแบ่งให้พรรคร่วมรัฐบาล ต้องมั่นใจพรรคร่วมทำเป็น และพรรคร่วมนั้นต้องทำตาม ไม่นั้นพรรคนั้นจะอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ประชาชนไม่ต้องคิดมาก เอานโยบาย ชอบนโยบายพรรคไหน เลือกพรรคนั้น ถ้าพรรคไหนสัญญาแล้วไม่เคยผลักดันก็อย่าไปเสียเวลาผลักดัน”

เมื่อถามว่า ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปาดกันไปมา ปาดจริงหรือไม่ หรือไปจับมือกันตอนหลัง นายทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่าสมมุติ พล.อ.ประยุทธ์ จะขอเป็นนายกฯ อีกรอบหนึ่ง ตนไม่คิดว่า พล.อ.ประวิตร จะไปจับมือ แต่ถ้า พล.อ.ประวิตร จะขอเป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ อาจยอมจับมือด้วย แต่ว่าที่พูดแล้วเป็นไปไม่ได้ทั้งคู่ เสร็จฝ่ายประชาธิปไตย

“อย่างที่ผมบอกว่าฝ่ายประชาธิปไตยต้องได้เกิน 350 เสียง ผมบอกว่า 300 เสียง ฝ่ายประชาธิปไตยในปัจจุบันน่าจะถึง 350 เสียง” นายทักษิณ กล่าว

เมื่อถามว่า จะยุบสภาหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้ากรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ แพ้แน่ๆ เขาไม่ได้ 25 ส.ส. ก็จะเลือกอยู่ครบเทอม แต่คนข้าง พล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกหมดแล้วว่าจะได้ ส.ส. 100 เสียง เขาอาจจะเชื่ออย่างนั้น คนเรามีอำนาจมาก จะเริ่มหันหลังให้ความจริง วันนี้เลยระดมยาหมดอายุมากิน

“ประชาชนเป็นกำลังสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองและเปลี่ยนแปลงประเทศ ผมอยากให้ประชาชนทำเหมือนนักฟุตบอล ตื่นเต้นเวลาเตะเข้าแล้วเอาลูกฟุตบอลมาตั้งตรงกลางสนาม หมายควาามว่า ประชาชนกาบัตรแล้วต้องไม่ให้มีการโกงเลือกตั้ง ทำยังไงให้ประชาชนไปเฝ้าการนับคะแนน ใช้พลังประชาชนจริงๆ แล้วไม่มีการโกง ผมว่าประเทศเปลี่ยน ประชาธิปไตยก็จะพัฒนาขึ้น” นายทักษิณ กล่าว.