จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “พบแล้วครับ โลงเย็นวัดบ้านดงตะเคียนพัดมากับน้ำป่า อยู่ทุ่งนาป่าข้าวบ้านผมครับ กำลังรอผู้ช่วยสะอ้านประสานงานมาเอาไปเก็บรักษาต่อไป” พร้อมภาพโลงเย็น ที่มีผ้าคลุมสีแดง ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดลอยมาอยู่ในพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ก.ย. จากการสอบถามนายอำนาจ เผือกโคกสูง อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า หน่วยพิทักษ์ป่าชั่วคราวดงตะเคียน เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าซับลังกา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 ก.ย.64 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน และท่วมวัดดงตะเคียน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของหมู่ที่ 12 บ้านดงตะเคียน ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งวัดดงตะเคียน ตั้งอยู่ริมคลอง ขณะนั้นได้มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว ได้พัดเอาโรงเย็น ที่ตั้งเก็บไว้ภายในศาลาธรรมสังเวช ไหลตกลงคลองไปไกลกว่า 6 กิโลเมตร  

ต่อมาในช่วงเวลากลางคืนของวันดังกล่าว ชาวบ้านได้ออกสำรวจพื้นที่ความเสียหาย กระทั่งเดินไปถึงกลางทุ่งนา ก็แทบจะช็อก เมื่อพบว่ามีโลงเย็น ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่งนาโดยมีผ้าสีแดงคลุมไว้ จากนั้นจึงได้รีบแจ้ง นางสะอ้าน เผือกโคกสูง ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 บ้านดงตะเคียน ให้รับทราบพอช่วงเช้าทางด้านนางสะอ้าน เผือกโคกสูง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จึงได้บอกตนให้ช่วยไปตรวจสอบว่า ใช่โลงเย็นที่หายไปจากวัดดงตะเคียน หรือไม่ ตนจึงได้รีบขี่​ จยย.ออกไปตรวจสอบ ก็พบโลงเย็นของวัดดงตะเคียนจริงๆ จึงได้เกณฑ์กำลังชาวบ้านประมาณ 7-8 คน ออกไปช่วยกันยกโลงเย็นขึ้นรถอีแต๊ก นำกลับมาทำความสะอาด และส่งมอบคืนแก่ทางวัด

ขณะที่นายวสันต์ แอร์สูงเนิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 12 บ้านดงตะเคียน เปิดเผยว่า โลงเย็นดังกล่าว ได้ถูกจัดเก็บไว้ในห้องล็อกกุญแจไว้อย่างดี แต่ก็ยังถูกกระแสน้ำพัดออกไปได้ยังโชคดีที่โลงเย็น ไม่ได้รับความเสียหายมาก มีเพียงรอยยุบนิดเดียว ยังได้กลับคืนมา นอกจากนี้ยังมีโลงขาวอีก 3 โลง ที่ถูกน้ำพัดหายไป ที่ยังหาไม่เจอ 

สะดุ้งโหยง! โลงเย็นโผล่กลางนา ถูกน้ำป่าซัดลอยมาไกล

ด้านนายลพ บุตรทอง อายุ 64 ปี ผู้พบเห็นโลงเย็นเป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 ก.ย. ขณะที่ตนหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนบ้านชั้น 2 ได้เหลือบไปเห็นโลงเย็นลอยตะแคงมากับสายน้ำ โดยมีผ้าคลุมสีแดงคลุมอยู่ และยังมีโลงขาวอีก 1 โลง ลอยมาตามกันมาด้วย ลอยไปทางทุ่งนา ซึ่งขณะนั้นตนคิดว่าโลงเย็นคงลอยไปไกลแล้ว พอรุ่งเช้าของวันที่ 26 ก.ย.64 ประมาณ 06.00 น. ตนเองได้ออกมาสำรวจสิ่งของเครื่องใช้ที่ถูกน้ำพัดไป และดูความเสียหายของไร่ข้าวโพด จังหวะนั้นได้เห็นอะไรบางอย่างสีแดงๆ อยู่กลางทุ่งนา จึงได้ตัดสินใจเดินไปดู ก็พบว่าเป็นโลงเย็นที่ถูกน้ำพัดมาของเมื่อวาน​ (26 ก.ย.) ตอนเย็น ซึ่งขณะนั้นตนไม่กล้าเปิดดูข้างใน จนกระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยกันยกขึ้นมาจากทุ่งนา และเปิดดูข้างใน ซึ่งก็เป็นโลงเปล่าๆ จากนั้นชาวบ้านจึงได้นำขึ้นรถอีแต๊กไปส่งคืนที่วัด ส่วนโลงขาวที่ลอยมาด้วยกัน ก็ยังไม่มีคนเจอ