เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอให้ ครม.พิจารณาเรื่องการเช่า Device หรืออุปกรณ์สนับสนุนการเรียนการสอนให้กับนักเรียน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา หรือ 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ตและครูผู้สอน ซึ่งการเช่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะใช้งบประมาณรายจ่ายซึ่งเป็นงบผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2568-2572 จำนวนกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยเฟสแรกจะแจกให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 600,000 กว่าคน ในกลุ่มโรงเรียนขยายโอกาสและโรงเรียนคุณภาพชุมชน สำหรับงบประมาณจำนวนดังกล่าวจะมีทั้งการเช่าแท็บเล็ต  โครมบุ๊ก โน้ตบุ๊ก  และระบบคลาวด์หรือคลังเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการจัดทำแพลตฟอร์มเนื้อหาสาระการเรียนรู้ของนักเรียนและครู

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า  สำหรับการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนการสอนนั้นจะดูความคุ้มค่าของประโยชน์การใช้งานไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการเช่าอุปกรณ์ หากเฟสแรกดำเนินการไปได้ดีก็จะทำเรื่องเสนอของบประมาณเช่าอุปกรณ์ขยายต่อในกลุ่มโรงเรียนระดับชั้นอื่นๆ ต่อไป ซึ่งจะประเมินการใช้งานอีกครั้ง ทั้งนี้ในส่วนของการเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลการเช่าอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนการสอนแท็บเล็ต  โครมบุ๊ก โน้ตบุ๊ก  และระบบคลาวด์นั้น ศธ.จะเปิดกว้างให้แก่บริษัทเอกชนทุกแห่งเข้ามายื่นประมูลตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการล็อกสเปกเกิดขึ้น และการดำเนินการทุกอย่างต้องโปร่งใสทุกขั้นตอน  และต้องดูความคุ้มค่าและราคามีความเหมาะสมต่อการใช้งานด้วย เช่น อุปกรณ์จะต้องมาพร้อมแป้นพิมพ์ และซิมการ์ดพร้อมไวไฟ เป็นต้น

“ในส่วนของการขอคืนอัตรานักการภารโรงนั้น ที่เราขอสนับสนุนให้จัดสรรนักการภารโรงให้ครบทุกสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.ในอัตราที่ยังขาด 12,837 อัตรา อัตราละ 9,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาการจ้างเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2567 รวม 5 เดือน ในวงเงินงบประมาณ 577,665,000 บาทนั้น ต้องขอชี้แจงว่างบดังกล่าวเป็นงบจ้างเหมาบริการไม่ใช่งบลงทุนหรืองบผูกพัน แต่เป็นการใช้งบจ้างเหมาแบบปีต่อปี ดังนั้นเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.เพราะขณะนี้ ศธ.ได้ดำเนินการจัดงบจ้างนักการภารโรงแล้วในปีงบฯ 2567 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการจ้างทันทีตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้ไปจนถึงเดือนก.ย.นี้ เป็นการของบเพิ่มเติมในงบแปรญัตติของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนในปี 68 ศธ.ได้จัดทำงบประมาณในการจ้างต่อแล้ว” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว