จากกรณี น.ส.ชลลดา มุธุรงศ์ หรือน้องนุ่น อายุ 27 ปี หายไปตัวอย่างเป็นปริศนา หลังลงจากรถของสามีเวลากลางดึกของวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากกลับมาจากฉลองวันเกิดของสามี ซึ่งทางกลุ่มเพื่อนได้พากันโพสต์ตามหา แต่ยังไร้วี่แวว

ต่อมาพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผา ใน ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกับสัญญาณพิกัด GPS โทรศัพท์มือถือสุดท้าย ของ น.ส.ชลลดา โดยที่ข้อมือพบสร้อยคอทองคำ คล้ายกับที่น้องนุ่น สวมใส่ในวันที่หาย นั้น

ด่วน! พบโครงกระดูกถูกเผาอำพราง คาดเป็นศพของ ‘น้องนุ่น’ ที่หายตัวปริศนา

คืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ. พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รองผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.แสงระวี ภูสอาด สว.สส. สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 53/271 ภายในหมู่บ้านดังย่านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี สามีน้องนุ่น ผู้สูญหาย พบรถเก๋งหรู BMW สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ขส-6644 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในบ้าน ก่อนทางตำรวจจะควบคุมตัวนายนายศิริชัย มาที่ห้องสืบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

โดยเบื้องต้นหลังสอบสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดในห้องสืบสวน สภ.ปากเกร็ดนานกว่า 1 ชั่วโมง ทางนายศิริชัย ซึ่งมีอาชีพขายรถมือสอง ได้รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าน้องนุ่น ภรรยาตนเอง โดยใช้หินทุบหัว หลังกลับจากงานเลี้ยงแล้วมีปากเสียงกัน ก่อนจะนำศพใส่รถเก๋งไปทิ้งและเผาที่บ้านมาบเหวียง ต.หนองโพ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียดถึงสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้.