นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า หลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงวิสัยทัศน์ ไทยแลนด์ วิชั่น โดยมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงดีอีโดยตรง คือ การนำคลาวด์มาให้บริการประชาชน มุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล ดึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (ดิจิทัล อีโคโนมี ฮับ) นั้น ทางดีอีพร้อมสนองนโยบายในการเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ โดยเน้นการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล
“ประเทศไทย มีบุคลากร สถานศึกษา และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และเป็นพื้นที่แห่งการวิจัยและพัฒนา ที่ช่วยเสริมแรงให้กับการวิจัยและพัฒนาร่วมกับบริษัทต่างๆ โดยการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้นักศึกษาไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้วย โดยตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ให้มาขยายธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยี ไฮ-เทค ต่างๆ ทั้งการลงทุนโรงงานผลิต เซมิคอนดักเตอร์, การตั้งศูนย์ ดาต้า เซ็นเตอร์ รองรับ คลาวด์ คอมพิวติ้ง และการวิจัยและนำ เอไอ มาใช้งานในประเทศไทย เกิดการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อยกระดับความสามารถของคนไทย ให้เป็นแรงงานทักษะสูง โดยใช้ความร่วมมือจากบริษัทเอกชนแถวหน้าของโลก”
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังเตรียมดึงบริษัท ดีฟ เทค ให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ผ่านโมเดล แซนด์บ็อกซ์ ซึ่งรัฐบาลจะมีเงินสนับสนุนบริษัทที่ต้องการผ่านกองทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และจะทำ แมคชิ่ง ฟันด์ เติมทุนให้กับบริษัทที่มีศักยภาพด้วย ขณะเดียวกันก็เตรียมปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการตั้งบริษัท การทำงาน การรับ-จ่ายเงินเดือน การถือครองทรัพย์สินต่างๆ เพื่อดึงคนที่มีความสามารถเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย
“รัฐบาลจะสนับสนุนให้บริษัทสามารถประกอบธุรกิจข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้จุดแข็งทางด้านการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งจะทำให้คนรุ่นใหม่ที่อยากจะร่วมงานกับบริษัทชั้นนำในระดับโลก ไม่ต้องย้ายไปอยู่ในต่างประเทศ และจะเป็นโอกาสให้คนไทย ที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ สตาร์ทอัพ สามารถสร้างยูนิคอร์นของตนเองต่อไป”
