เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน เดินทางมายื่นขอประกันตัว น.ส.ตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ สองผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 กรณี บีบแตรรถยนต์ระหว่างขบวนเสด็จผ่านทางร่วมต่างระดับมักกะสัน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา และต่อมาทั้งคู่มีการอดอาหารประท้วงขณะถูกคุมขัง ตามที่ได้นำเสนอไปแล้ว โดยมี นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ พร้อมมวลชนอีกจำนวนหนึ่ง เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

‘ตะวัน’ ยืนหยัดอุดมการณ์อดอาหาร ยังไม่ถึงขีดอันตราย-ช่วยเหลือตัวเองได้

นายสมหมาย ระบุว่า วันนี้เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อขอความเมตตาให้ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวตะวันและแฟรงค์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ได้ไปเยี่ยมทั้งคู่ที่โรงพยาบาล พบว่าทั้งคู่อาการหนักมาก โดยเฉพาะตะวัน ผอมซูบจนเห็นหนังติดกระดูก ซึ่งแพทย์ประเมินอาการว่า หากไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจจะอาการหนักถึงชีวิต

ส่วนประเด็นที่ทั้งสองแสดงเจตจำนงปฏิเสธรับการรักษานั้น นายสมหมาย เผยว่า ทั้งคู่ไม่ยอมรับยาใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากจิบน้ำตามเวลา ซึ่งตนรู้สึกกังวล และหวังว่าวันนี้ศาลจะเมตตาให้ประกันตัว เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ออกมาต่อสู้คดีและรับการรักษาพยาบาล แต่หากวันนี้ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ตนและภรรยาร่วมกับแพทย์ ก็คงจะต้องเกลี้ยกล่อมทั้งคู่ให้รับการรักษา อย่างน้อยที่สุดเป็นการรักษาชีวิต เพื่อที่จะได้มีแรง ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ต่อสู้ในวันข้างหน้าต่อไป

นายสมหมาย เผยอีกว่า ตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ ที่จะฝากอะไรอีกแล้ว ถ้าหากว่าตอนนี้ไม่ช่วยให้สองคนนี้ออกมา ก็อาจจะต้องเสียชีวิต ซึ่งอย่างไรก็ตาม ต้องรอผลวันนี้ว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ หรือเคาะหลักทรัพย์การประกันตัวจำนวนเท่าไหร่

จากนั้นนายสมหมาย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ในวันนั้นตะวันและแฟรงค์จะเดินทางไปร่วมงานศพของแนวร่วมทะลุฟ้ารายหนึ่งที่เสียชีวิต ซึ่งปกติทั้งคู่จะใช้รถกระบะในการโดยสาร แต่วันนั้นปรากฏว่ารถเสีย จึงต้องไปหยิบยืมรถของคนอื่นมาใช้ ดังนั้นรถในวันเกิดเหตุ จึงไม่ใช่รถของตะวันและแฟรงค์ ซึ่งหลังจากร่วมงานศพเสร็จแล้ว ทั้งคู่จะเดินทางไปทำธุระส่วนตัวต่อ จึงปรากฏเห็นว่า ทั้งคู่ได้ขับรถไปที่ทางด่วน

นายสมหมาย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในวันนั้นทั้งคู่เพียงแค่ขับรถที่จะลงทางด่วน แต่ดันไปเจอกับรถปิดท้ายขบวนเสด็จ จึงเกิดการปะทะคารมกับตำรวจตรงนั้น แต่ขอให้สังเกตดูว่า โดยปกติแล้ว ขบวนเสด็จ แทบจะไม่มีใครทราบหรือรู้ว่า พระองค์จะเสด็จไปทางไหน เวลาไหน และมีโอกาสที่ผู้สัญจรผ่านไปมาทั่วไป จะพบเจอขบวนเสด็จได้ ในวันนั้นตะวันและแฟรงค์เพียงแค่จะลงทางด่วนทางเดียวกันเพื่อไปธุระส่วนตัว จึงเป็นไปได้ยังไงที่ทั้งคู่จะมีเจตนาที่จะยุยง ปลุกปั่น ไปขัดขวางขบวนเสด็จ เพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมีขบวนเสด็จผ่านมา

อีกประการหนึ่งที่ตนตั้งข้อสงสัยคือ โดยปกติแล้วขบวนเสด็จพระราชดำเนินอาจใช้ความเร็วประมาณ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจากในคลิปจะเห็นว่า ทั้งคู่ใช้เวลา 31 วินาที ซึ่งตอนนั้นขบวนน่าจะขับไปไกลมากแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตะวันและแฟรงค์จะใช้ความเร็วเพื่อที่จะแซงหรือขัดขวางขบวนเสด็จ จึงทำได้เพียงแค่บีบแตรแสดงความไม่พอใจให้กับตำรวจแค่นั้น และจากที่มีกลุ่มไอโอ พยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริงอ้างว่า ทั้งคู่พยายามที่จะจอดเบียดแซงขบวนเสด็จนั้น ตนมองว่า ถ้าทำถึงขนาดนั้นจริง ป่านนี้ทั้งคู่น่าจะถูกยิงไปแล้ว หรือไม่ก็ถูกจับกุมตั้งแต่วันนั้นแล้ว เพราะมิเช่นนั้นทางตำรวจก็จะถูกตั้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น นายสมหมาย กล่าวว่า ได้มีการต่อว่าสั่งสอนตักเตือนตะวันไปแล้วว่าอย่าทำแบบนี้อีก แต่ตนก็ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงจนถึงขนาดนี้ ซึ่งยอมรับว่า ตะวันอาจจะใช้ถ้อยคำน้ำเสียงหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่ฝากไปถึงสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ให้ลองตัดน้ำเสียง และถอดเทปเอาแค่คำถาม-คำพูดของทั้งคู่มานำเสนอหรือมาเขียนเป็นตัวหนังสือ แล้วลองพิจารณาดูว่าคำถามของทั้งคู่นั้น เข้าข่ายพฤติการณ์ปลุกปั่น ยั่วยุให้เกิดความแตกแยกตามมาตรา 116 หรือไม่

นายสมหมาย ยังกล่าวอีกว่า ยังหวังว่า ศาลอาญาจะมีเมตตาให้ทั้งสองคนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ออกมารับการรักษาและต่อสู้คดีตามสิทธิของเขา หากเขาทั้งคู่ผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่ตอนนี้ยังไม่มีการต่อสู้คดีใดๆ เลย กลายเป็นว่าสังคมตัดสินไปแล้วว่าเขาทั้งคู่มีความผิด

นายสมหมาย กล่าวทิ้งท้ายว่า หากตะวันได้รับการปล่อยตัวออกมาได้ ตนจะไม่ให้เขายุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลย จะให้เขากลับไปใช้ชีวิตที่เหมาะสมตามวัยของเขาและเรียนหนังสือให้จบ ตนจะบังคับไม่ให้ตะวันยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป

ด้านสายน้ำระบุว่า การยื่นขอประกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกเป็นการยื่นในวันที่มีการขอฝากขัง ส่วนครั้งที่ 2 พ่อของทานตะวันเป็นผู้ยื่นขอประกัน โดยขอย้ำว่า คดีนี้ยังคงอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งยังไม่ถูกส่งไปที่ชั้นพนักงานอัยการ ซึ่งใกล้จะครบผัดแรกแล้วคือ 12 วัน และต้องมาลุ้นกันว่า พนักงานสอบสวนจะมีการยื่นฝากขังในผัดที่ 2 หรือไม่

ขณะเดียวกัน ทั้ง 2 มีอาการเจ็บป่วยอย่างมาก พร้อมยกตัวอย่างกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักโทษเนื่องจากอาการเจ็บป่วย ซึ่งตนมองว่า สภาพของเพื่อนทั้งสอง มีอาการที่หนักกว่านายทักษิณอย่างมาก