เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ ศูนย์การค้า MBK CENTER (ศูนย์การค้ามาบุญครอง) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในการเปิดโครงการมหกรรมรวมพลคนหลังกำแพง ภายใต้แนวคิด “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส” พร้อมร่วมเวทีเสวนาพิเศษ ในประเด็นความท้าทายในการสร้างการยอมรับผู้พ้นโทษ และเปิดบูธคนหลังกำแพง ที่ออกไปประกอบอาชีพต่างๆ ทั้งด้านศิลปะ การแสดง อาชีพอิสระ เจ้าของกิจการ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่และผู้บริหารของเรือนจำ/ทัณฑสถาน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อาทิ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ดร.นัทธี จิตสว่าง ที่ปรึกษาสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง และ CEO บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) อาจารย์วุฒิชัย วงศ์จิโรจน์ ประธานมูลนิธิบ้านพระพร และนายวรยศ บุญทองนุ่ม (แพท พาวเวอร์แพท) โดยมีนายมาฬิศร์ เชยโสภณ เป็นผู้ดำเนินการเวทีเสวนา

โดยนางอาจารี ศรีสุนาครัว รรท.ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยถึงอาการสภาพร่างกาย กรณีที่ 2 นักกิจกรรมทางการเมือง คือ “น.ส.ตะวัน” และ “น.ส.เนติพร” ประกาศอดอาหารระหว่างคุมขังพิจารณาคดี ว่า สำหรับอาการของ น.ส.ตะวัน เจ้าตัวยังคงยืนยันในอุดมการณ์ในการอดอาหาร ซึ่งเดิมทีแรกทางเจ้าหน้าที่ของทัณฑสถานหญิงกลาง ได้ตรวจร่างกายแล้วพบว่า น.ส.ตะวัน มีอาการอ่อนเพลีย จึงได้ส่งเข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันแรก จากนั้นก็ได้มีการส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนอาการในปัจจุบันขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์ แต่ ณ วันนี้ตนได้รับรายงานว่า น.ส.ตะวัน ยังคงให้การช่วยเหลือตัวเองได้ดี แต่มีอาการอ่อนเพลียเนื่องจากอดอาหารมาหลายวัน อย่างไรก็ตาม น.ส.ตะวัน ยังไม่ได้อยู่ในขีดอันตราย เพราะระดับน้ำตาลในเลือด สัญญาณชีพจร ความดันยังคงปกติ ส่วนในเรื่องของการจัดเจ้าหน้าที่ของเรือนจำในการดูแล เราได้มีการจัดเตรียมเรียบร้อย โดยดำเนินการไปตามระเบียบ ส่วนรายชื่อบุคคลที่มีการระบุโดยผู้ต้องขัง จำนวน 10 รายชื่อให้สามารถเข้าเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือเพื่อน ก็สามารถเดินทางเข้าเยี่ยมที่โรงพยาบาลได้ โดยในวันนี้ น.ส.ตะวัน ได้ยื่นคำร้องขอให้พ่อแม่เดินทางเข้าเยี่ยม แต่ในส่วนของเพื่อนยังไม่ปรากฏรายชื่อแต่อย่างใด รวมถึงกรณีของทนายความสามารถเข้าพบลูกความได้ตามปกติ ทั้งนี้ ถ้าเจ้าตัวมีอาการดีขึ้นก็จะต้องมีการส่งตัวกลับเรือนจำและสังเกตอาการต่อเนื่อง ขอให้ไม่ต้องกังวลเรามีสถานพยาบาลและมีแพทย์คอยตรวจอาการ ยืนยันว่าในตอนนี้ น.ส.ตะวัน ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ

นางอาจารี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง แม้ว่าทำการอดอาหารมาหลายวันแล้วก็ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ก็มีอาการร่างกายอ่อนเพลีย ส่วนถ้าหลังจากนี้มีอาการถึงขั้นที่จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เราก็จะส่งไปเข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนถ้าจะต้องมีการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์พิเศษใด ๆ ก็อาจจะมีการพิจารณาส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอื่นๆ ที่เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายร่วมกับทางกรมราชทัณฑ์ เช่น โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้ กรณีของบุ้งได้ไปอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 2 ครั้งแล้ว ไปครั้งหนึ่งก็ประมาณ 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับความเห็นแพทย์ ซึ่งบุ้งค่อนข้างสุขภาพแข็งแรงกว่าตะวัน ช่วยเหลือตัวเองได้ เดินไปห้องน้ำเองได้ แต่ก็ยังปฏิเสธการรักษา ปฏิเสธการรับประทานอาหารทุกชนิดทั้งทางปากและการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ

นางอาจารี กล่าวด้วยว่า บุ้งไม่เชิงมีพฤติกรรมอาละวาด แต่อาจมีอาการหงุดหงิด แต่เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะการอดอาหารเนื่องจากร่างกายอาจแปรปรวน ส่วนเรื่องอารมณ์เสียต่างๆ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีประสบการณ์ในการรับมือและปฏิบัติตามสิทธิผู้ป่วยและสิทธิผู้ต้องขัง

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักโทษในเรือนจำกว่า 280,000 ราย อยู่ในข่ายคุมประพฤติอีก 400,000 กว่าราย ในอดีตเรือนจำถูกมองว่าเป็นดินแดนคนต้องห้าม ใครที่เข้าเรือนจำเป็นบุคคลต้องคำสาป แต่ปัจจุบันถึงยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ต้องมองว่าเป็นดินแดนแห่งความให้โอกาส เป็นดินแดนของการพัฒนาศักยภาพ เป็นดินแดนที่มีความเท่าเทียมกัน และเป็นดินแดนที่มีเวลาในการพัฒนาสำรวจตนเองว่ามีศักยภาพอย่างไร สุดท้ายสังคมต้องให้โอกาสคนที่เคยต้องโทษ

สำหรับกรณีพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร นั้น พ.ต.อ.ทวี เผยว่า เราทำตามกฎหมาย ส่วนที่ สส.ฝ่ายค้าน เรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายชื่อแพทย์ที่รักษาอาการป่วยของนายทักษิณ ตนยืนยันว่าไม่สามารถเปิดเผยได้และได้อธิบายไปแล้วว่าขัดต่อกฎหมายการดูแลผู้ป่วย ส่วนกรณีเรื่องการใช้งบประมาณของราชทัณฑ์ในการรักษานายทักษิณนั้น สามารถตรวจสอบได้ เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบภาพลักษณ์รัฐบาล แต่ยอมรับว่าอาจกระทบต่อกระทรวงยุติธรรมมากกว่า เพราะเราตัดสินใจภายใต้กระทรวงยุติธรรม.