มียอดจดทะเบียนสะสมประเภทแบตเตอรี่  หรือ BEV กว่า 147,743 คัน ยังพุ่งขึ้น 301.75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จับทิศทางกระแสจากนโยบายภาครัฐ ที่ทุ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ผลิต หวังดึงดูดฐานการผลิตเข้าประเทศไทย ทำให้ราคายานยนต์อีวี เป็นราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้น รวมทั้งผู้ผลิตเอง ก็ได้ทำราคา หรือโปรโมชั่นต่าง ๆ เร้าใจออกมา เชื่อว่า ตัวเลขความต้องการยานยนต์อีวี ยังทะยานขึ้นต่อไปแน่นอน ส่งผลให้ความต้องการสถานีชาร์จยานยนต์อีวี เป็นที่ต้องการตามมาคู่ขนานกัน  

“พีระภัทร ศิริจันทโรภาส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ ผู้ให้บริการสถานีชาร์จภายใต้แบรนด์ “RÊVERSHARGER” หนึ่งในผู้ประกอบการติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์อีวี ที่เข้ามาในธุรกิจนี้อย่างจริงจัง มองว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในปี 66 มีมากถึง 89,000 คัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มเป็นมากกว่า 200,000 คัน ภายในปี 67 แน่นอนว่า ความต้องการเครื่องชาร์จ (อีวี ชาร์จเจอร์) ที่บ้าน จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับจุดชาร์จอีวีสาธารณะ ที่คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการสูงขึ้นมากถึง 15,000 หัวชาร์จ

แต่ในปัจจุบันประเทศไทย มีจุดชาร์จสาธารณะทั้งหมดเพียง 9,693 หัวชาร์จเท่านั้น ถือว่าน้อยกว่าความต้องการของผู้ใช้อยู่ประมาณ 35%  รวมถึงผู้ขับขี่อีวี ยังต้องเผชิญปัญหาในเรื่องของระยะเวลาชาร์จที่ค่อนข้างนาน และความยุ่งยากในการเข้าใช้บริการ ณ สถานีชาร์จ นี่จึงเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมอีวี ที่จะต้องเข้ามาตอบโจทย์อุปสงค์ดังกล่าวให้ครอบคลุม

“ตลาดรถอีวีกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ขับขี่อีวี ต้องการผู้ให้บริการที่เข้าใจปัญหา เข้าใจเส้นทางความต้องการของผู้บริโภค และเข้าใจภาพรวมของโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะมาช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น เราเชื่อว่า ด้วยประสบการณ์ที่ครบวงจร ด้วยข้อมูลเชิงลึก และการพัฒนาเทคโนโลยีอันสอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากลที่เรามี จะช่วยยกระดับประสบการณ์การชาร์จอีวีได้อย่างครบ สะดวก สบาย ได้ตามเป้าหมาย”

ทั้งนี้ ภายในปี 67 RÊVERSHARGER ได้ปักธงแผน “ครบจบทุกการชาร์จ –สะดวกทุกเส้นทาง-สบายชาร์จง่ายทุกคัน”  ไว้ว่า จะติดตั้งอีวี ชาร์จเจอร์  ตามบ้านสะสมครบ 100,000 หลัง และกระจายตามสถานีสาธารณะ 2,012 หัวชาร์จทั่วประเทศ เพิ่มความสะดวกในการบริการสถานีทุก 160 กม. พร้อมหัวชาร์จ DC ความเร็วสูง ชาร์จ 10 นาที วิ่งได้ไกลถึง 100 กม. ตลอดจนพัฒนาฟีเจอร์ในแอปพลิเคชันให้หาจุดบริการชาร์จได้ง่าย ชาร์จได้สะดวก และชำระเงินได้ง่าย เพื่อรองรับผู้ใช้งานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 รายในสิ้นปี.