ตามที่นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้นำบริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์ (1977) จำกัด เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างที่กระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและดำเนินการกับผู้กระทำผิดนั้น
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายปองธรรม อินทร์ไทร ผอ.สำนักบริหารการผลิตแบบเรียนขององค์การค้าฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดทีโออาร์และคณะกรรมการกำหนดราคากลางจ้างพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2567 กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งภาพรวมการจัดพิมพ์แบบเรียนในปีการศึกษา 2567 ถ้าองค์การค้าฯ ไม่สามารถพิมพ์หนังสือเรียนได้ทันเปิดภาคการศึกษา จะมีโรงพิมพ์เอกชนได้รับผลประโยชน์จากการที่หนังสือเรียนองค์การค้าฯ ออกไม่ทันเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2567 องค์การค้าฯ มีการประกาศประกวดราคาหนังสือเรียน ในวันที่ 23 ก.พ. 2567 ซึ่งถือได้ว่าล่าช้ากว่าทุกปี เนื่องมาจาก สพฐ. ได้มีการปรับต้นฉบับเนื้อหาหนังสือเรียนให้ทันสมัย โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีการปรับปรุงจำนวน 11 เล่ม และกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จำนวน 39 เล่ม รวม 50 เล่ม และต้องการให้หนังสือเรียน สสวท. นำขึ้นประกาศรายชื่อหนังสือเรียนที่ลงในบัญชีกำหนดสื่อการเรียนรู้ สำหรับเลือกใช้ในสถานศึกษาทุกปกพร้อมกัน เนื่องจากมีการปรับปรุงต้นฉบับหนังสือเรียนจำนวนถึง 50 รายการ จึงไม่สามารถลงบัญชีรอบเดือน ม.ค. และ ก.พ. ตามปฏิทิน สพฐ. ได้ทัน จึงมาลงบัญชีกำหนดสื่อการเรียนรู้ สำหรับเลือกใช้ในสถานศึกษา รอบพิเศษ วันที่ 29 ก.พ. ทำให้องค์การค้าฯ ต้องประกาศประกวดราคาหนังสือเรียนในวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากต้องรอให้ต้นฉบับสมบูรณ์ก่อน
นายปองธรรม กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้การประกวดราคาองค์การค้าฯ ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัด หากดำเนินการโดยใช้วิธี E-Bidding จะใช้เวลานานกว่า 110 วัน องค์การค้าฯ จึงใช้วิธีคัดเลือก ซึ่งใช้เวลาเพียง 25 วันโดยประมาณ ภายใต้เงื่อนไขต้องผลิตหนังสือเรียนให้ทันเปิดภาคการศึกษา 2567 ในวันที่ 16 พ.ค. นี้ โดยองค์การค้าฯ แบ่งการประมูลหนังสือเรียนเป็น 30 กลุ่ม และเชิญโรงพิมพ์มากถึง 19 โรง ซึ่งบริษัทที่มาร้องเรียนก็เป็นหนึ่งใน 19 โรงพิมพ์ที่มีคุณสมบัติครบได้รับการเข้าประมูลได้เช่นกัน เพื่อให้เกิดการกระจายงานไปให้โรงพิมพ์ได้มากที่สุด โดยเราแบ่งออกเป็น 30 กลุ่ม ดังนั้นหนึ่งสำนักพิมพ์สามารถเลือกได้มากกว่า 30 รายการ ซึ่งยืนยันว่าเราไม่ได้ล็อกสเปก แต่ต้องการกระจายการพิมพ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อสามารถผลิตหนังสือเรียนได้ทันภาคเรียนที่ 1/2567
“การเปิดซองในวันที่ 29 ก.พ. นี้ องค์การค้าฯ จะดำเนินการเปิดซองประกวดราคา โดยะแยกเป็น 2 ซอง คือ ซองคุณสมบัติ และซองราคา โดยจะรับเอกสารตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 12.00 น. และเปิดซองเวลา 13.00 น. เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม องค์การค้าฯ ขอยืนยันว่า จะดำเนินขบวนการประกวดราคาด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม จะผลิตหนังสือเรียน และจัดส่งได้ทันเปิดภาคเรียนอย่างแน่นอน” นายปองธรรม กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามงบกลางที่จะใช้ในการผลิตแบบเรียนของปีนี้จะใช้งบประมาณ 980 ล้านบาท
