คดีที่ชายชาวไต้หวันถูกเพื่อนร่วมชาติยิงในบ้านพักย่านลาดปลาเค้า และนำศพไปทิ้งในร้านอาหารร้างย่านสนามบินสุวรรณภูมิ     ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 ก.พ. สื่อไต้หวันรายงานว่า ทางการไต้หวันได้มีการควบคุมตัว นาย โฉ ยู่ ฟาย (หรือโจว) อายุ 25 ปี ได้ในขณะที่เดินทางกลับเข้าประเทศไต้หวัน โดยเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา หลังคุมตัวได้ที่สนามบินทางการไต้หวันได้คุมตัวไปสอบสวน โดยนายโฉ ยู่ ฟาย (หรือโจว) ให้การกับตำรวจไต้หวันว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ต้องสงสัยกำลังเจรจาปัญหาบางอย่างกับ นาย ฉี โหมว เชียง (ผู้ตาย) ซึ่งตนเองไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่เมื่อได้ยินเสียงปืนจึงรู้ว่าเกิดเหตุ ซึ่งตนยอมรับว่าตนเดินทางนำศพไปทิ้งพร้อมกับผู้ต้องสงสัย แต่ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ฆาตกรรม นาย ฉี โหมว เชียง หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปประเทศกัมพูชา ต่อมาตนเกรงว่าไม่ปลอดภัยกลัวจะถูกเพื่อนร่วมสัญชาติฆ่าปิดปากจึงหนีกลับเข้าประเทศทันที

 อย่างไรก็ตามมีรายงานต่อว่า ภายหลังการสอบสวนทางสำนักงานตำรวจตุลาการของศาลไทไปในไต้หวันได้อนุญาตให้ นาย โฉ ยู่ ฟาย (หรือโจว) อายุ 25 ปี ได้กันตัวในวงเงิน 300,000 ดอลลาร์ไต้หวัน โดยมีข้อจำกัดห้ามออกนอกประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนความเคลื่อนไหวคดีในไทย วันนี้ทางพนักงานสอบสวนของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำตัวนางสาวปิยานุช ส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการผัดแรกเพื่อรอส่งสำนวนไปยังอัยการจังหวัดสมุทรปราการ พิจารณาส่งฟ้อง หลังทางการกัมพูชาสามารถจับกุมได้ที่ปอยเปตและส่งให้ทางการไทยดำเนินคดีเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่าน

จับแล้ว 1 ราย! กัมพูชาตามรวบ ‘สาวไทย’ วัย 22 ปี สมาชิกแก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มชาวไต้หวัน

โดยตลอดเวลาที่น.ส.ปิยานุชถูกคุมตัวสอบสวน ไม่มีญาติมาติดต่อขอเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด ขณะที่พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์และเกรงว่าจะหลบหนี ในคดีนี้มีผู้ต้องหา 5 คน เป็นชายชาวไต้หวัน 4 คน หญิงไทย 1 คน จับได้แล้ว 2 คน คือ นางสาวปิยานุช และนายโจว ส่วนที่เหลืออีก 3 คนคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในกัมพูชา ส่วนปมการสังหาร คาดว่าจากขัดแย้งธุรกิจ