สื่อท้องถิ่นในสหรัฐ รายงานข่าวร้านอาหารเวียดนาม “เฝอกาโบ” ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน โดนทางการสั่งปิดอย่างถาวร เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าของร้าน โดนเพื่อนบ้านรายหนึ่งร้องเรียนอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 18 เดือน โดยยืนกรานว่า ร้านอาหารแห่งนี้ ส่งกลิ่นรบกวนชุมชนระหว่างเปิดให้บริการ
ร้านเฝอกาโบ ซึ่งมีสาขาอยู่ 3 แห่ง ในเมืองพอร์ตแลนด์ จำเป็นต้องปิดร้านสาขาบนถนนฟรีมอนต์ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2567 หลังจากที่ผู้ร้องเรียนซึ่งไม่มีการระบุชื่อในรายงานข่าว ส่งคำร้องทุกข์หลายครั้งมายังเจ้าหน้าที่ของเมืองตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 โดยกล่าวหาว่าร้านเฝอกาโบละเมิดกฎหมายการจัดเขตพื้นที่ใช้สอยของชุมชน ซึ่งห้ามมีกิจกรรมที่ทำให้เกิดกลิ่นรบกวนบ่อยครั้งและอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าว
ทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนของเมืองพอร์ตแลนด์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้านเฝอกาโบ ระบุว่า พวกเขาได้กลิ่นอาหารที่คาดว่าเป็นกลิ่นรบกวนนั้น เกิดจากการผัดอาหารด้วยกระทะ กลิ่นดังกล่าวนั้นมีความรุนแรงและไม่เพียงอบอวลในบริเวณร้านอาหาร แต่ยังแพร่ข้ามถนนไปไกล กระทั่งบ้านผู้พักอาศัยในละแวกนั้น ที่ห่างออกไปอย่างน้อย 5 หลัง ยังสามารถได้กลิ่นดังกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ผู้รับเหมาก่อสร้างที่กำลังสร้างบ้านบนถนนสายเดียวกัน เขาก็ให้ข้อมูลว่า ได้กลิ่นอาหารจากร้านเฝอกาโบทุกวัน
เอ๊ดดี้ ด่ง เจ้าของร้านเฝอกาโบ แก้ต่างว่า ร้านอาหารสาขานี้ของเขาตั้งมานานถึง 5 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีชาวบ้านคนไหนออกมาร้องเรียนเรื่องกลิ่น การที่ร้านต้องปิดตัวลง ก็ส่งผลกระทบต่อลูกค้าขาประจำในย่านนั้นของทางร้านเป็นอย่างมาก
ด่ง ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่โดนร้องเรียน ทางร้านก็เปลี่ยนวิธีทำอาหารเสียใหม่ รวมทั้งว่าจ้างบริษัททำความสะอาดเพื่อกำจัดกลิ่นอาหารที่กระจายออกไป แต่ทางผู้ร้องเรียนก็ยืนกรานว่า ยังคงได้รับความเดือดร้อนและฟ้องทีมตรวจสอบว่ามีกลิ่นรบกวนจากทางร้านในช่วงอาหารกลางวันและอาหารเย็น
ในที่สุด ด่ง ก็ตัดสินใจปิดร้านสาขาดังกล่าว เพราะไม่สามารถจ่ายเงินจำนวน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.43 ล้านบาท) เป็นค่าติดตั้งระบบกรองและกำจัดกลิ่นตามคำแนะนำได้
คดีของร้านเฝอกาโบ ทำให้ทาง Oregon Restaurant & Lodging Association (ORLA) หรือกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและที่พักในรัฐออริกอน ออกมาเรียกร้องให้มีการทบทวนมาตรฐานเรื่องกลิ่นรบกวนของร้านอาหารในพอร์ตแลนด์ และยุติการคุกคามที่พุ่งเป้าไปยังร้านอาหารขนาดเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีเจ้าของเป็นชาวอเมริกัน ที่เชื้อชาติและภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่หลากหลายจากประเทศอื่น
เจสัน แบรนด์ท ประธานและซีอีโอของ ORLA กล่าวว่า “ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลนิรนามเพียงแค่คนเดียว ที่ร้องเรียนซ้ำ ๆ ซาก ๆ เรื่องกลิ่นรบกวน จะสามารถทำให้ร้านอาหารทั้งร้านต้องปิดตัวลง พนักงานต้องตกงานและเจ้าของธุรกิจต้องสูญเสียทางการเงินโดยไม่อาจหาทางชดเชยได้”
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการตอบรับในทันทีต่อข้อเรียกร้องของ ORLA โดยการจัดทบทวนระเบียบและมาตรฐานเรื่องกลิ่นรบกวนจากร้านอาหารจากสภาเมือง แต่ร้านเฝอกาโบ ก็ไม่สามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง เนื่องจาก ด่ง ได้บอกเลิกจ้างพนักงานของสาขาไปแล้วทั้งหมด และเจ้าของพื้นที่ที่ทางร้านเช่าอยู่ ก็กำลังจะบอกขายอาคารทั้งหลังในไม่ช้านี้
ที่มา : nextshark.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
